ครม.รับทราบผลติดตั้งเน็ตประชารัฐในแต่ละหมู่บ้าน ตั้งเป้าส่งมอบกว่า 2หมื่นหมู่บ้านภายในสิ้นปี

หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรี นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้รายงานผลการดำเนินงานโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หลังคณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมีติงบประมาณ 20,000 ล้านบาทในการติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตจำนวน 24,700 หมู่บ้าน โดย ขณะนี้ได้วางเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ตไปแล้ว 99 หมู่บ้านในชื่ออินเทอร์เน็ตประชารัฐ และมีแผนว่าภายในเดือนพฤษภาคม จะส่งมอบ 3,099 หมู่บ้าน เดือนมิถุนายนส่งมอบ 2,800 หมู่บ้าน  เดือนกันยายนส่งมอบ 8,200 หมู่บ้าน และเดือนธันวาคมส่งมอบ 10,100 หมู่บ้าน  ให้ครบ 24,700 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้

สำหรับในประเทศไทยมีกว่า 70,000 หมู่บ้านโดยจะแบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 4 ประเภทคือ หมู่บ้านที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น การวางสายจะเป็นไปในเชิงพาณิชย์ ส่วนหมู่บ้านที่มีคนอาศัยอยู่ไม่หนาแน่น กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นผู้ดูแล จำนวน 24,700 และประเภทที่เข้าถึงลำบาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เป็นผู้ดูแล ส่วนประเภทหมู่บ้านที่เข้าถึงยาก อยู่ตามขอบชายแดน กสทช.เป็นผู้ดูแลเช่นกัน

ในส่วนที่ของกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับผิดชอบ ดูแลจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ และส่วนที่กสทช. ดูแลจะเสร็จสิ้นกลางปี 2561 โดยลักษณะการเดินสายอินเทอร์เน็ตเข้าหมู่บ้านจะเป็นแบบไฟเบอร์ออฟติก ซึ่งภายในหมู่บ้านจะต้องประชุมกันว่าจะนำ จุดปล่อยสัญญาณไปลงที่บริเวณจุดใดของหมู่บ้าน นอกจากนี้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังขอขยายระยะเวลาเบิกจ่าย จากเดิมที่หมดอายุในเดือนมีนาคม 2560 ไปเป็นสิ้นเดือนกันยายน 2560

นอกจากนี้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังเสนอโครงการ พัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติจำนวน 21 โครงการ 6,129 หน่วย แบ่งเป็น เคหะชุมชนผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง 13 โครงการ 5,039 หน่วย ราคาขายเริ่มต้น 560,000 -700,000 บาท โครงการเคหะชุมชนรายได้ปานกลางขึ้นไป 8 โครงการ 1,090 หน่วย ราคาขายเริ่มต้น 1400,000-2,500,000 บาท ภายใต้งบประมาณ 4,322 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะมีผู้มีที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 1,700,000 ครัวเรือน