งานเข้า! ผู้เชี่ยวชาญระบุ เกาหลีเหนือ อาจอยู่เบื้องหลังการปล่อยWannaCryโจมตีคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

16 พฤษภาคม 2560, 15:40น.


เอเอฟพีรายงานอ้างนายนีล เมห์ตา นักวิจัยระบบคอมพิวเตอร์จากบริษัทกูเกิลของสหรัฐฯ,ทีมวิจัยจากบริษัทคาสเปอร์สกีของรัสเซีย หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ระดับโลกและบริษัทอินเทเซอร์ แลปส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงระบบคอมพิวเตอร์ของอิสราเอลว่า นักวิจัยด้านความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์กล่าวหา เกาหลีเหนือว่าอาจจะเกี่ยวพันกับการปล่อยไวรัสชื่อวอนนาครายโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่ที่สร้างความโกลาหลให้กับระบบทำงานของคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ที่แล้วและเปิดประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ



ก่อนหน้านี้นายเมห์ตาได้โพสต์ข้อความเผยแพร่รหัสคอมพิวเตอร์ที่แสดงให้เห็นความคล้ายกันระหว่างไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อวันนาครายกับไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ถูกระบุว่าเป็นความพยายามของกลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนือเพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งก่อนๆ เพิ่มเติมว่าผู้เชี่ยวชาญอาจจะต้องใช้เวลาตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังจริงหรือไม่



ด้านนายทอม บอสเซิร์ต ที่ปรึกษาระดับสูงด้านระบบไซเบอร์และความมั่นคงภายในประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ปฏิเสธว่า สหรัฐไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ(เอ็นเอสเอ)ของสหรัฐฯจะได้ค้นพบข้อบกพร่องในระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไมโครซอฟท์และสร้างรหัสลับขึ้นมาเพื่อใช้ล้วงข้อมูล ก่อนจะรั่วไหลไปสู่นอกองค์กรในเวลาต่อมา เขากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการแพร่ระบาดของไวรัสคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ไม่เกี่ยวกับเอ็นเอสเอ และหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด



ก่อนหน้านี้ ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวหาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯว่าอยู่เบื้องหลัง ผู้นำรัสเซียพูดเรื่องนี้ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดเส้นทางสายไหมของรัฐบาลจีนเมื่อวานนี้ ระบุว่าที่ผ่านมารัสเซียถูกกล่าวหาว่าเข้าไปโจมตีระบบไซเบอร์ในหลายประเทศทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง



ด้านนายแบรด สมิธ ประธานและหัวหน้าฝ่ายกฏหมายของบริษัทไมโครซอฟท์ของสหรัฐฯระบุว่าการโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงภัยอันตรายจากการที่เอ็นเอสเอสของสหรัฐฯเก็บรวบรวมเครื่องมือสำหรับแฮ็กข้อมูลไว้จำนวนมากๆ ก่อนหน้านี้มีความหวั่นวิตกว่าเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นทำงานวันแรกของสัปดาห์จะเกิดเหตุไวรัสคอมพิวเตอร์แพร่ระบาดมากขึ้น แต่โฆษกสำนักงานตำรวจยุโรป (ยูโรโปล)ระบุว่าสถานการณ์เริ่มทรงตัวหลังโรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร บริษัทรถยนต์หลายแห่งในยุโรปและธนาคารรัสเซียได้รับผลกระทบจากกรณีไวรัสติดระบบคอมพิวเตอร์ ด้านรัฐบาลจีนและอินเดียตำหนิเอ็นเอสเอของสหรัฐฯที่สร้างรหัสลับเพื่อใช้แฮกข้อมูลมาตั้งแต่แรก ก่อนจะหลุดรั่วไหลไปดังกล่าว/14.52 น.

 

ข่าวทั้งหมด

X