กรมชลประทาน ขอให้ชาวบ้านในชุมชนเมืองมีส่วนร่วม แก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำทางน้ำ

16 พฤษภาคม 2560, 13:56น.


การแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ เป็นเรื่องสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวันนี้มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ในเรื่องยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำและการบูรณาการแผนการดำเนินการสิ่งกีดขวางทางน้ำขึ้น โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมด้วย เช่น กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรน้ำ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น



ดร. ภัทราภรณ์ เมฆพฤกษาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผน) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัญหาสิ่งกีดขวางเส้นทางน้ำในปัจจุบัน มีจำนวนมาก ในภาคกลางมีกว่า 200 แห่ง ทั้งสะพาน ท่อลอดสะพานเพื่อระบายน้ำ ที่มีไม่เพียงพอ ทางรถไฟบางแห่งที่ขวางเส้นทางน้ำ โดยสิ่งกีดขวางแต่ละชนิด แต่ละพื้นที่จะกระทบต่อการระบายน้ำไม่เหมือนกัน เมื่อมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำแล้ว จะต้องตรวจสอบ ออกแบบและปรับปรุงสิ่งก่อสร้างนั้นๆ ให้รองรับต่อการระบายน้ำ ไม่ถึงกับต้องทุบทิ้ง เมื่อตรวจสอบแล้วจึงจะกลับไปตั้งงบประมาณ ขอรัฐบาล เพื่อดำเนินการต่อไป และจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 5 ปี



โดยปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีหลายสาเหตุ  เช่น การสร้างสิ่งกีดขวางเส้นทางน้ำและการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนไป ในอดีตที่ดินส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งนาเมื่อน้ำท่วมน้ำจะซึมลงดินมีการจัดเก็บน้ำไว้ใต้ดินทำให้น้ำลดได้เร็ว แต่ในปัจจุบันเมื่อเป็นพื้นที่ชุมชนเมือง เมื่อน้ำไม่สามารถซึมลงดินได้ก็จะเป็นมวลน้ำที่มากขึ้น และท่วมขังนานขึ้น



ดร. ภัทราภรณ์ อยากฝากประชาชน ที่อยู่ใกล้พื้นที่ก่อสร้างของราชการ ให้เข้ามามีส่วนร่วม ให้ความคิดเห็น  ในเรื่องเส้นทางน้ำไหล ก่อนจะมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ผู้ ที่ทำโครงการจะได้ทราบและออกแบบได้ถูกต้อง และขอประชาชนอย่ารุกล้ำทางระบายน้ำ ส่วนประชาชนที่จะเข้าไปอาศัยในพื้นที่ใหม่ก่อนจะมีการก่อสร้างบ้านเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ขอให้ไปปรึกษากับกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีการจัดทำผัง ทั้งผังระดับลุ่มน้ำ ระดับจังหวัดและระดับชุมชน ซึ่งมีการบูรณาการกับกรมชลประทาน ในการกำหนดพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่รับน้ำและพื้นที่น้ำป่าไหลหลาก



 



ผสข.สมจิตร์ พูลสุข 

ข่าวทั้งหมด

X