ไมโครซอฟท์เตือนภัยจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่เกรงระบาดหนักในวันนี้

15 พฤษภาคม 2560, 10:50น.


ไมโครซอฟท์ระบุว่า นับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ หรือมัลแวร์ แพร่กระจายไปในคอมพิวเตอร์มากกว่า 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลก สืบเนื่องมาจากช่องว่างของซอฟท์แวร์ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง โดยไวรัสตัวล่าสุดนี้อาศัยช่องว่างของระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows รุ่นแรก และยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเริ่มต้นการทำงานในวันจันทร์ซึ่งนายแบรด สมิธ ประธานและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของไมโครซอฟท์ โพสต์ข้อความในบล็อกส่วนตัวระบุว่าเป็นการโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ครั้งเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา และรัฐบาลของนานาประเทศควรยกระดับการโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ในระดับเดียวกับการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ

อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์พบว่า มีข้อมูลสำคัญของซีไอเอสหรัฐฯ ที่ถูกขโมยไป และรัฐบาลทั่วโลกควรตระหนักถึงความเสียหายจากการโจมตี เพราะหลังจากที่ไมโครซอฟท์ออกประกาศเตือนไปแล้ว และขอให้อัพเดตระบบปฏิบัติการ แต่ผู้ใช้จำนวนมากก็ยังไม่ได้เรียกใช้

ด้านสำนักงานตำรวจยุโรป หรือ ยูโรโปล ระบุว่า การที่มัลแวร์นี้สามารถแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งทั่วเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนคอมพิวเตอร์ที่ถูกปิดล็อกเพื่อเรียกค่าไถ่มีจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และเมื่อถึงวันจันทร์ผู้บุกรุกก็ออกไวรัสตัวใหม่เพื่อใช้ในการโจมตีแล้ว

สำหรับมัลแวร์ที่แพร่กระจายเมื่อวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนคือวอนนาคราย (WannaCry) ผ่านโค้ดชื่อเอเธอร์นัลบลู (EternalBlue) ของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่าชาร์โดว์ โบรเกอร์สจะเข้าไปล็อกไฟล์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ และเรียกร้องให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินค่าไถ่เริ่มต้นที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรูปสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์ แลกกับการปลดล็อก อย่างไรก็ตามนักวิจัยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ยอมรับว่า แม้จะพบวิธีการแก้ไขในเบื้องต้นแต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าแฮกเกอร์กลุ่มนี้คือใคร



....

ข่าวทั้งหมด

X