การแถลงผลการจับกุมแก๊งค์ปลอมวุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการตำรวจ เอกสารราชการ ส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 (บก.สปพ.) พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ร่วมกับพันตำรวจเอกสำราญ นวลมา รองผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 แถลงว่า ตำรวจได้สืบทราบและสามารถจับกุมนายนิธิภัทร์ ใจดี อายุ 52 ปี ชาว ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี และนายสท้าน รอดพันธ์ อายุ 44 ปี ชาวตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมของกลาง เป็นหนังสือแสดงผลการเรียน การศึกษานอกระบบ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายปลอม 6 ฉบับ, หนังสือแสดงผลการเรียน ระดับ ปวช.ปลอม 9 ฉบับ, ประกาศนียบัตร วิทยาลัยสารพัดช่างนครหลวง กรุงเทพมหานคร ปลอม 1 ฉบับ,แท่นปั้มรูปรอยตราของสถาบันราชภัฏนครปฐม 1 แท่น, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์ต่อพ่วง ที่ใช้ในการตัดภาพ 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือและรถจักรยานยนต์ เบื้องเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมปลอมแปลงเอกสารราชการ โดยชุดสืบสวนสามารถจับกุมได้บริเวณร้านถ่ายรูปกีน่าโฟโต้เอ็กเพรส เลขที่ 93/90 หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พฤติการณ์ของผู้ต้องหา ที่ทำหน้าที่ปลอมเอกสารและส่งให้กับลูกค้า จะเปิดร้านถ่ายภาพกีน่าโฟโต้เอ็กเพลส ตั้งอยู่ที่ 93/90 หมู่ที่ 7 ต. ท่าทราย อ. เมือง จ. สมุทรสาคร จึงนำกำลังมาเฝ้าจับกุมนายนิธิภัทร์ พร้อมของกลาง
จากการสอบถามนายนิธิภัทร์ รับว่าได้ปลอมเอกสารขึ้นจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำกับนายสท้าน คนรู้จักกัน ซึ่งมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่บริเวณวิน ยูนิคอร์ด ซึ่งนายสท้าน จะได้รับคำสั่งทำวุฒิการศึกษาปลอม มาจากนายหน้าและมาสั่งให้ตัวเองทำปลอมอีกทอดหนึ่ง ซึ่งทำมานานประมาณ 1-2 ปีระหว่างปี 2558 ถึง 2560 ทำปลอมออกไปแล้วประมาณ 60 ฉบับคละกันไปทั้งเอกสารใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (ใบ ป. 4) วุฒิการศึกษาปลอม ใบขับขี่ปลอม บัตรข้าราชการตำรวจปลอม ใบอนุญาตทำงานต่างด้าวปลอม สำหรับค่าจ้างในการปลอมใบ ป. 4 เป็นเงิน 1,500 บาท รวมส่ง ค่าจ้างปลอมเอกสารหนังสือระเบียนแสดงผลการเรียนการศึกษานอกระบบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นเงิน 950 บาทรวมส่งและได้ค่าจ้างในการปลอมเอกสารหนังสือระเบียน แสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตร เป็นเงิน 2,050 บาทรวมส่ง
หลังจากนั้น ตำรวจจึงเดินทางไปจับกุมตัวนายสท้าน ตามคำบอกของนายนิธิภัทร และเมื่อสอบถามนายสท้าน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับคำสั่งและรายละเอียดการทำวุฒิการศึกษารับปลอม และเอกสารปลอมอื่นๆ มาจากนายหน้า ซึ่งติดต่อกันทางไลน์ โดยแบ่งมาจ้างจากนายหน้าที่โอนให้ตอนนี้คนละครึ่งและจะนำค่าจ้างส่วนที่เหลือประมาณร้อยละ 40 ไปแบ่งให้กับนายนิธิภัทร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารสื่อสารที่ 1 และตำรวจ ร่วมกันนำตัวนายสท้าน นำค้นบ้านพัก พบโทรศัพท์มือถือ ที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับนายหน้า และจากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ พบหลักฐานเป็นไฟล์ภาพตัดต่อบัตรข้าราชการตำรวจปลอมอีกหลายราย ซึ่งมีบัตรข้าราชการตำรวจปลอมหลายรายการพัวพันกับการกระทำความผิดอื่น เช่น ความผิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2556 ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดตาก ที่สามารถจับกุมนายปิยะพงษ์ หรือ เอก ศรีโสภา ปลอมตัวและใช้บัตรข้าราชการ ยศ ร้อยตำรวจเอก ในตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปางปลอม เพื่อให้สามารถลักลอบขนแรงงานเถื่อนเข้าเมืองได้โดยสะดวก หลังจากนี้ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ขยายผลจับกุมนายหน้าและผู้รับจ้างเปิดบัญชีที่ใช้ในการกระทำความผิดที่เหลือในเครือข่ายต่อไป พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปลอมใบ ป. 4 เป็นเรื่องร้ายแรง เป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะสามารถนำไปพกพาอาวุธปืนไปยังที่ต่างๆ ได้ และขณะนี้เริ่มทำกันอย่างแพร่หลายแล้วในเฟซบุ๊ก จึงต้องเร่งดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดี เพื่อขยายผลต่อไป
ด้านนายนิธิภัทร์ ยอมรับว่า มีการสแกนเอกสารและลบข้อมูลก่อนจะเปลี่ยนแปลงข้อมูล ทำใบ ป. 4 มาประมาณ 20 ใบแล้ว โดยใช้ระยะเวลาทำ 3 วันต่อ 1 ใบ ส่วนบัตรข้าราชการปลอม ปลอมเพียงคนเดียว ที่ถูกจับกุมที่จังหวัดลำปาง ซึ่งทำไม่สำเร็จ จึงไม่ทำอีก หลังจากนั้นก็ไม่มีการทำอีก เพราะตนทำไม่เนียน โดยนายสท้าน จะเป็นคนส่งรายชื่อมา และมอบหมายให้เราเป็นคนทำ ก่อนจะส่งไปรษณีย์ไปให้
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข