ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.
+++นายศุภฤกษ์ กลั่นกล้า นายก อบต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้นิมนต์พระครูสุธี ปริยัตยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบางปะอิน และพระสงฆ์ รวม 9 รูป มาประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลถาคา พร้อมปลุกเสกเมล็ดพันธุ์ข้าว เหมือนเช่นทุกปี ก่อนนำเมล็ดพันธุ์ข้าวแจกจ่ายให้ชาวนาในชุมชนนำไปเพาะปลูก เป็นการเริ่มต้นฤดูการทำนาชุมชนบ้านเทโพ เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกทั้งเป็นชุมชนเกษตรอินทรีย์ ถึงแม้ว่าชุมชนแห่งนี้ จะมีพื้นที่ติดกับนิคมอุตสาหกรรมและชุมชนเมืองใหม่ของจังหวัด แต่เกษตรกรยังคงรักษาวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อม ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
+++นายวีรนันนท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีปัตตานี ว่า หลังจากพบศพเจ้าของรถกระบะถูกฆ่าชิงรถไปประกอบระเบิดเมื่อคืน เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมผู้สั่งการปล้นทรัพย์และฆ่า ก่อนนำรถไปวางระเบิด คือ นายสุฮัยมี สมาแอ โดยจับได้ที่ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก โดยรับสารภาพว่าอยู่ในกลุ่มที่ก่อเหตุ มีผู้เกี่ยวข้องอีก 8 คน ประกอบด้วย 1.นายอานุวา กาซอ 2.นายรุสลัน ใบหมัด 3.นายเมาลานา สาเมาะ 4.นายอืสมาแอ มอซู 5.นายบุคคอลี หลำโซะ 6.นายอับดุลอาซิ จะปะกียา 7.นายมะนาเซ ไซดี และ 8.นายมูฮำมัด กาซอ ซึ่งทั้ง 8 คนมีหมายจับอยู่ รวมทั้งเคยก่อเหตุมาหลายคดีในพื้นที่ปัตตานีและยะลา ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้ได้หลบหนีไปยังพื้นที่ยะลาและชายแดนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างศาสนาด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่ถูกควบคุมตัวแล้ว 7 คน เป็นผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่น รวมอยู่ด้วย 2 คน ซึ่งได้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ ส่วนอีก 5 คน กำลังสอบสวน โดยกลุ่มนี้เป็นเพียงผู้ถูกบังคับและมีส่วนรู้เห็นเท่านั้น
+++พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุคาร์บอมบ์ที่ห้างบิ๊กซี จ.ปัตตานี ว่า ขณะนี้เริ่มจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือภาคประชาสังคมในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อให้คนไม่ดีในแผ่นดินหมดไป ส่วนนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งใน อ.หนองจิก ปัตตานี ซึ่งถูกซัดทอดว่าเกี่ยวข้องกับการปล้นรถไปทำคาร์บอมบ์นั้น บ่งชี้ให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ในการติดตามดูพฤติกรรมบุคคลต่างๆ งานสำคัญขณะนี้คือความเข้มข้นด้านการข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำในทุกครั้งที่มีการประชุมข่าวกรองว่าการประสานงานระหว่างหน่วยข่าวกรองทั้งหมดที่มีอยู่ต้องมีความแนบแน่น แลกเปลี่ยนข้อมูลได้ในทันทีเมื่อมีข่าวอะไรเข้ามา แล้วร่วมกันวิเคราะห์ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร ส่วนคนที่ถูกออกหมายจับแล้ว คือ นายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ หนึ่งในคนร้ายที่ร่วมปฎิบัติการ เชื่อว่ายังอยู่ในพื้นที่ ยังไม่หลบหนีออกนอกประเทศสิ่งที่เห็นได้เด่นชัดจากยุทธวิธีในการก่อเหตุ คือ ปล้นรถกระบะ แล้วรีบนำมาก่อเหตุทันที ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงในยุทธวิธีที่เห็นได้ชัด ต่อไปนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องรายงานสิ่งเหล่านี้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่จะให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเปิดเทอม ว่า จะมีการจับจ่ายในช่วงดังกล่าวเป็นมูลค่ากว่า 50,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผู้ปกครองเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาสินค้าสำหรับการเรียนก็แพงขึ้นด้วย แม้ว่าจะซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิม ทำให้มูลค่าการใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยโดยรวมต่อคนอยู่ที่ 12,295.70 บาท และสัดส่วนค่าใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม แบ่งเป็นร้อยละ 42.8 ใช้สำหรับจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน และค่าหน่วยกิต รองลงมา ร้อยละ 28.2 ใช้สำหรับจ่ายค่าบำรุงโรงเรียน หรือแป๊ะเจี๊ยะ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเรื่องอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน เป็นสัดส่วนที่น้อย เพียงร้อยละ 5-6 ของมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งทำให้กลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ53.1 มีเงินไม่เพียงพอใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม และต้องนำทรัพย์สินไปจำนำ รวมถึงเบิกเงินสดจากบัตรเครดิต และกู้เงินในระบบเพื่อนำมาใช้จ่ายก่อน บางส่วนยังเห็นว่าการเรียนพิเศษเพิ่มเติมมีความจำเป็น เพื่อให้บุตรหลานได้เกรดเฉลี่ยการเรียนที่สูงขึ้น และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเรียนพิเศษ โดยระดับประถม มีค่าเรียนพิเศษ 10,704 บาทต่อราย มัธยมต้นต้องจ่ายค่าเรียนพิเศษเพิ่ม 9,740 บาท ต่อราย มัธยมปลาย มีค่าใช้จ่าย เรียนพิเศษเพิ่ม 11,064 บาท และมหาวิทยาลัย มีค่าเรียนพิเศษเพิ่ม 14,814 บาทต่อราย โดยทัศนคติต่อระบบการศึกษาของไทย พบว่า ร้อยละ 46 เห็นว่าระบบการศึกษาของไทยดีขึ้น ร้อยละ 20 ไม่แตกต่างร้อยละ16.3 เห็นว่าแย่ลง และให้คะแนนสำหรับการศึกษาไทยอยู่ที่ 7.58 คะแนน จาก คะแนนเต็ม 10
+++หลังเกิดไฟไหม้สายพานลำเลียงสินค้ากลางทะเลท่าเรือ ฟิวเจอร์ พอร์ท จำกัด อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี นายณรงค์ หวังดี หัวหน้างานความปลอดภัยทางทะเล สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล จ.ชลบุรี กรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้สั่งระงับการใช้สะพานลำเลียงสินค้าดังกล่าวแล้ว และสั่งการให้ทางบริษัทฯชี้แจงรายละเอียดถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และแนวทางการแก้ไขให้กรมเจ้าท่าได้รับทราบภายในวันจันทร์ที่ 15 พ.ค.นี้ หลังจากส่งแผนงานให้แล้ว ทางกรมเจ้าท่าจะนำมาพิจารณาตรวจสอบก่อนจะอนุมัติให้ใช้งานต่อไป คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดจากฟ้าผ่า เพราะในช่วงเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
+++หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่าดัชนีขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) แสดงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีนี้ว่าอาจไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ หลังในประเทศสมาชิกทั้งหมด 34 ชาติ มีเพียงเยอรมนีและแคนาดาที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวพุ่งขึ้น แต่ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐและอังกฤษยังไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจของเอเชียจะมีแนวโน้มสดใสจากปัจจัยบวก เช่น การกระตุ้นทางการคลังของสหรัฐที่มากกว่าที่คาด หรือความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในเศรษฐกิจพัฒนาแล้วที่ปรับตัวดีขึ้น จะช่วยการส่งออกของเอเชีย แต่เอเชียยังคงต้องการการปฏิรูป เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ระบุว่า อัตราการว่างงานของยูโรโซนย่ำแย่กว่าตัวเลขของทางการ โดยอยู่ที่ 15% เมื่อไม่นับรวมพนักงานชั่วคราวและพาร์ตไทม์ที่ต้องการทำงานเพิ่ม สูงกว่าตัวเลขทางการที่ 9.5% และมีเพียงเยอรมนีที่ไม่มีปัญหาการว่างงานเท่านั้น ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ระบุว่าเตรียมเรียกร้องให้นานาชาติเพิ่มความเข้มงวดในกฎการค้าระหว่างประเทศ เช่น มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดที่เข้มงวดมากขึ้นและตั้งศาลยุติธรรมเพื่อแก้ไขความขัดแย้งด้านการลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ