ผู้นำเกาหลีใต้ เน้นการเจรจาแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ-เยอรมันกดดันยกเลิกสัญญาเช่าอาคารชุดให้เกาหลีเหนือในเบอร์ลิน

12 พฤษภาคม 2560, 05:53น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++ประธานาธิบดี มุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ต่อสายหารือผู้นำสามชาติมหาอำนาจ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ประเด็นสำคัญที่สุดคือการกระชับความร่วมมือเพื่อจัดการกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ  ยุน ยังชาน โฆษกของประธานาธิบดีมุน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มุนได้หารือทางโทรศัพท์นาน 40 นาทีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในวันพฤหัสบดี (11พ.ค.) และผู้นำทั้งคู่ระบุว่า การปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือเป็นเป้าหมายร่วมกันของสอง มุนต้องการฟื้นการเจรจาควบคู่กับการใช้มาตรการคว่ำบาตร  ต่างจากรัฐบาลอนุรักษนิยมชุดที่แล้วและคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการเพิ่มมาตรการลงโทษคว่ำบาตรและขู่ใช้ปฏิบัติการทางทหาร



+++บีบีซีรายงานอ้างนายมาร์คุส เอเดอเรอร์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศเยอรมนีว่า รัฐบาลเยอรมนีจะขอให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมชาวตุรกี เจ้าของอาคาร ยกเลิกการให้เกาหลีเหนือเช่าอาคารธุรกิจชื่อว่าอาคารโฮซเทลเบอร์ลินในใจกลางกรุงเบอร์ลิน อาคารธุรกิจขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานทูตเกาหลีเหนือ ในปัจจุบันเจ้าของอาคารให้สถานทูตเกาหลีเหนือเช่าอาคารเดือนละ 38,000 ยูโร ที่ผ่านมาสถานทูตเกาหลีเหนือได้รับรายได้ส่วนหนึ่งจากผู้เช่าสถานที่จัดประชุมที่อาคารดังกล่าว นอกจากนั้นยังใช้เป็นโรงแรมที่พักราคาถูกสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งสามารถจะพักแรมในห้องพักขนาด 8 เตียงนอน ราคาเพียง 9 ยูโร 50 เซนต์ต่อคืน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เพื่อลดทอนความศักยภาพของเกาหลีเหนือในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์



บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานนายไมค์ ปอมปีโอ ผอ.สำนักงานข่าวกรองกลาง(ซีไอเอ)ของสหรัฐฯว่าซีไอเอได้จัดตั้งหน่วยพิเศษชุดหนึ่งชื่อว่าศูนย์ปฏิบัติการข่าวกรองเกาหลีเหนือ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ ระบุว่าการจัดตั้งศูนย์ฯดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐฯสามารถบูรณาการปฏิบัติการต่างๆและควบคุมสั่งการเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯและพันธมิตร



+++คณะกรรมาธิการการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งสอบสวนข้อกล่าวหาว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีก่อน ส่งหนังสือเพื่อขอออกหมายเรียกนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากคณะกรรมาธิการพบว่า นายฟลินน์ ไม่ได้มีความสมัครใจที่จะเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรอง มีความพยายามเจรจาต่อรองหลายครั้ง และเมื่อวันที่ 28 เมษายนก็ยังปฏิเสธที่จะยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน นายฟลินน์ถูกบังคับให้ต้องลาออกไปในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเขาไม่สามารถชี้แจงเนื้อหาของการเจรจากับนักการทูตรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ผลจากข้อกล่าวหาเรื่องการที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบให้นายเจมส์ โคมีย์ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอฟบีไอด้วย แม้ว่าทางทำเนียบขาวจะชี้แจงว่าการไล่ออกนายโคมีย์จะเป็นเรื่องอีเมลล์ของนางฮิลลารี คลินตัน อดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่า เพราะเอฟบีไอกำลังสอบสวนเรื่องที่รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง



+++ราคาน้ำมันในวันพฤหับดี(11พ.ค.) ปรับขึ้น 2 วันติด  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ ปิดที่ 47.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 50.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ชาติผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเช่น อิรัก แอลจีเรียและคูเวต ส่งเสียงสนับสนุนขยายกรอบเวลาข้อตกลงลดกำลังผลิตเกือบ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะครบกำหนดสิ้นเดือนมิถุนายน ขณะที่โอเปก จะประชุมกำหนดนโยบายสำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปี 2017 ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางความคาดหมายว่าทางกลุ่มจะขยายมาตรการลดกำลังผลิตออกไปอย่างน้อยๆสิ้นปี



ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(11พ.ย.) ปิดลบเล็กน้อย หลังมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า ท่ามกลางความกังวลว่าพวกผู้บริโภคไม่ใช้จ่ายมากพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 23.69 จุด ปิดที่ 20,919.42 จุด ดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์



++++นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ร่วมรายการสัมภาษณ์แนววาไรตี้ทางสถานีโทรทัศน์บีบีซี ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่แล้วนับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการด้วยที่เธอให้สัมภาษณ์ออกสื่อคู่กับสามี คือนายฟิลิป เมย์ นักการธนาคารซึ่งแต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2523 แต่ทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน และเป็นที่่ทราบกันดีในแวดวงสื่อของอังกฤษ ว่าสามีของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ที่ต้องการ "ความเป็นส่วนตัวสูง"ผู้นำอังกฤษเล่าในช่วงหนึ่งของรายการว่า รู้จักกับสามีที่งานดิสโก้ของมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด และผู้ที่แนะนำให้ทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกัน คือนางเบนาซีร์ บุตโต ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงของปากีสถานในเวลาต่อมา ทั้งคู่ยืนยันว่าต่างฝ่ายต่างเป็นรักแรกพบของกันและกัน ต่อมาเมื่อผู้ดำเนินรายการซักถามเกี่ยวกับการอยู่ในสถานะสามีของนายกรัฐมนตรี นายเมย์ตอบว่า "ถือเป็นเกียรติอย่างสูง"  ซึ่งคำตอบดังกล่าวเป็นเพียงไม่กี่ประโยคที่นายเมย์พูดตลอดรายการที่นานประมาณ 30 นาที โดยส่วนใหญ่สามีของผู้นำหญิงอังกฤษจะคอยพยักหน้าและยิ้มสนับสนุนคำตอบของภรรยา  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีกำหนดปรากฏตัวในรายการสดทางช่องบีบีซีในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ โดยจะเป็นรายการสดที่เธอต้องตอบคำถามของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ในบ้านเมือง ที่ร่วมถึงการเจรจาเบร็กซิต ในวันเดียวเดียวกับนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคแรงงาน ซึ่งจะออกรายการเดียวกันแต่คนละรอบ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ โดยผลสำรวจความคิดเห็นจากทุกสำนักให้พรรคอนุรักษ์นิยมมีคะแนนนำ 2 หลักเหนือพรรคแรงงาน



+++บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานอ้างตำรวจว่าเงินสด 85 ล้านเยนหรือราว 750,000 ดอลลาร์สหรัฐฯหายไปจากตู้เซฟของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในเมืองฮิโรชิมา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เงินสดก้อนนี้ เป็นของกลางในคดีฉ้อโกงคดีหนึ่งซึ่งถูกตำรวจยึดมาผู้กระทำความผิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ด้านแหล่งข่าวพนักงานสอบสวนระบุว่าโดยปกติหลักฐานต่างๆที่ยึดมาจะเก็บไว้ในตู้เซฟของตำรวจแผนกสอบสวน แต่ในคดีนี้เงินมีเงินสดที่ถูกยึดมาเป็นจำนวนมาก จึงถูกนำไปเก็บไว้ในแผนกบัญชีเนื่องจากมีตู้เซฟที่มีขนาดใหญ่กว่าของแผนกสอบสวน แหล่งข่าวพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมว่าพวกเขาพบว่าตู้ลิ้นชักที่เก็บกุญแจไขตู้เซฟถูกงัดเสียหาย ตำรวจคาดว่าคนในองค์กรอาจจะลักเงินไปจากตู้เซฟ

ข่าวทั้งหมด

X