การเตรียมพร้อมรับมือการก่ออาชญากรรม ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล พล.ต.ต. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะประธานการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนและกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1-9 เพื่อทำพิธีปิดโครงการพัฒนาระบบการจัดเก็บฐานข้อมูลอาชญากรรม AEC และสรุปผลการจับกุมผู้ต้องหา ที่มีหมายจับ ในกลุ่มความผิดฐานฉ้อโกง ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2557 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมแผนประทุษกรรมของคนร้ายในคดีฉ้อโกงจากนครบาล 1-9 สามารถ แบ่งประเภทการฉ้อโกงได้ถึง 13 ประเภท ประกอบด้วย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ หลอกเช่า และดาวน์รถ หลอกไปทำงานหรือเรียนต่อต่างประเทศ ชักชวนร่วมลงทุน แอบอ้างบุคคลสำคัญในการช่วยคดีต่างๆ การหลอกขายสินค้าปลอม ค่าประกันเงินกู้ เปิดบริษัทสั่งสินค้าแล้วหนี หลอกเล่นแชร์ลูกโซ่ ค่าประกันเงินกู้ หลอกขายพระ ขายทอง พร้อมกำชับ ให้ทุกฝ่ายนครบาลควรช่วยกันเร่งทำงานมากกว่านี้ และต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของตำรวจนครบาลให้ทันคนร้ายที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดเวลา
ในปัจจุบันความคืบหน้าของคดีบางคดียังมีไม่มาก และผู้ร้ายบางรายที่มีคดีติดตัวมานานหลายสิบปี เช่น นายตึ๋ง ปราจีน หรือ มนุษย์ร้อยเสียง ก็ยังสามารถหลอกประชาชนได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพัฒนาการทำงานใหมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนหมายจับคดีฉ้อโกงในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีทั้งหมดราว 3,385 หมายจับ ส่วนผลการจับกุมตั้งแต่วันที่ 21-25 กรกฎาคม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 331 คน รวม 475 หมายจับ
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง มักอาศัยความโลภของเหยื่อ และใช้การตีสนิท เพื่อทำให้เหยื่อหลงเชื่อและหลอกเอาทรัพย์สิน จึงขอเตือนประชาชนว่า ก่อนที่จะทำธุรกรรมต่างๆกับคนแปลกหน้า ควรตรวจสอบประวัติให้ละเอียดว่าเป็นผู้ร้ายหรือไม่
ธีรวัฒน์/ภาพ-ข่าว