ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ให้คำมั่นว่าจะปกป้องข้อตกลงปารีสซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิล และร่วมกันปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คำกล่าวของผู้นำจีนเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเกี่ยวข้องกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงฉบับนี้ ที่ทำให้เกิดความกังวลว่าหากสหรัฐฯ กลับไปใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจะยิ่งทำให้สภาวะโลกร้อนยิ่งทรุดหนักลงไปกว่าเดิม อย่างไรก็ตามเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ทำเนียบขาวสหรัฐฯ มีกำหนดประชุมเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส แต่เมื่อใกล้จะถึงเวลาประชุมคณะที่ปรึกษาของประธานาธิบดีก็มีการแจ้งเลื่อนการประชุมออกไป และเป็นครั้งที่สองแล้วที่มีการแจ้งเลื่อน แต่ครั้งนี้ไม่มีการแจ้งว่าจะมีการประชุมใหม่เมื่อใด แต่เป็นที่ชัดเจนว่ามีความเห็นขัดแย้งกันภายในกลุ่มคณะทำงานของประธานาธิบดีเกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้
ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีทรัมป์โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับนายมาครงที่ชนะการเลือกตั้ง นายมาครงกล่าวตอนหนึ่งว่าเขามีนโยบายที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส ส่วนในประกาศของกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่าประธานาธิบดีสี และนายมาครงเห็นพ้องที่จะมีความร่วมมือเพื่อเดินหน้าข้อตกลงปารีสเช่นกัน
เกือบ 200 ประเทศทั่วโลกได้ให้การสนับสนุนข้อตกลงซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียส และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวมาตลอดว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่ชี้ว่ามนุษย์เป็นผู้รับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสนับสนุนให้ใช้พลังงานถ่านหิน และอนุมัติโครงการท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่จากประเทศแคนาดา ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มความกังวลว่าทำให้ข้อตกลงเกิดความสับสน
...
F163