กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า มีหลักฐานที่ชี้ว่า รัสเซียยิงระเบิดข้ามพรมแดนเพื่อโจมตีเป้าหมายทางทหารในยูเครน นอกจากนี้ยังมีเจตนาส่งมอบอาวุธหนักและแท่นยิงจรวดให้แก่กลุ่มกบฎยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซีย แต่เป็นข้อกล่าวหาที่รัสเซียปฏิเสธมาตลอด
ประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐในครั้งนี้มีขึ้นในห้วงเวลาครบ 1 สัปดาห์เหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกในเขตพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฎทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีการกล่าวหาว่ากลุ่มกบฏใช้อาวุธที่ได้มาจากรัสเซียยิงเครื่องบินลำนี้ ขณะที่การสืบสวนสาเหตุที่แท้จริงยังดำเนินต่อไป โดยมีเนเธอร์แลนด์เป็นหัวหน้าคณะผู้สอบสวน เนื่องจากเป็นผู้ที่สูญเสียมากที่สุด เนื่องจากผู้โดยสาร 193 คนจากทั้งหมด 298 คนบนเครื่องบินลำนี้เป็นเนเธอร์แลนด์
อย่างไรก็ตาม การทำงานสืบสวนสอบสวนในพื้นที่เต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากยังมีการสู้รบอยู่ในพื้นที่ และมีรายงานของคณะผู้ตรวจสอบจากองค์การความร่วมมือและความมั่นคงในยุโรป หรือ โอเอสซีอี ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ยังมีศพผู้เสียชีวิตถูกทิ้งอยู่ในจุดที่เครื่องบินตก แต่การพิสูจน์ศพกลุ่มนี้อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน นายกรัฐมนตรีโทนี่ แอบบ็อตต์ แห่งออสเตรเลีย จึงเสนอให้มีกองกำลังผสมเพื่อคุ้มครองพื้นที่ เพื่อให้ทีมงานสอบสวนสามารถลงพื้นที่ทำงานได้โดยกองกำลังชุดนี้ประกอบไปด้วยทหารจากออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และ มาเลเซีย ซึ่งในเวลานี้นางจูเลีย บิชอป รัฐมนตรีการต่างประเทศออสเตรเลีย ร่วมด้วยนายฟรานส์ ทิมเมอร์มานส์ รัฐมนตรีการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ที่กรุงเคียฟของยูเครน เพื่อหาทางให้กองกำลังผสมเข้าไปในพื้นที่ได้
และในวันนี้ สหภาพยุโรป หรือ อียู จะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการลงโทษรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะมีมาตรเพิ่มเติมคือ ห้ามซื้อหุ้น หรือ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซีย
....F163...