รอยเตอร์รายงานอ้างนายชังยอง รี ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่าเศรษฐกิจของเอเชียจะเผชิญกับความไม่แน่นอนและปัจจัยเสี่ยงสำคัญอื่นๆในระยะสั้น โดยเฉพาะภาวะการตึงตัวอย่างฉับพลันของตลาดการเงินทั่วโลกหรือนโยบายปกป้องตลาดภายในที่เพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อเดือนเมษายนว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 5.5 จากเดิมคือร้อยละ 5.4 เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ระบุว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังของประเทศต่างๆในเอเชียแปซิฟิกจะส่งเสริมให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวมากขึ้น
ไอเอ็มเอฟยังปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับเอเชียแปซิฟิกในปีหน้าว่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงคืออยู่ร้อยละ 5.4 ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เติบโตร้อยละ 5.3 เมื่อปีที่แล้ว รายงานชิ้นนี้มีขึ้นในขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ผู้กำหนดนโยบายทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการต่างๆเพื่อรองรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนโยบายการปกป้องตลาดภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯและโอกาสที่จะมีค่าใช้จ่ายการสำรองเงินทุนต่างๆที่อาจจะสูงขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตอันใกล้ แต่ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสของนายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้สมัครแนวคิดสายกลาง ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเรื่องการเปิดตลาดเสรีและโลกาภิวัฒน์ นายรีแสดงความหวังว่าการทำข้อตกลงระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเมื่อไม่นานมานี้จะมีส่วนช่วยให้การค้าขายทั่วโลกขยายตัวขึ้นมากกว่าลดลง