ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำฝรั่งเศส- เกาหลีใต้หาเสียงโค้งสุดท้าย/ซูจี เข้าเฝ้าโป๊ปฟรานซิส/ปากีสถานประหารกลุ่มตอลีบัน

+++สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่า เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 องค์พระประมุขแห่งเครือจักรภพ จะหยุดการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีนี้

+++แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ระบุว่า เจ้าชายฟิลิปเสด็จฯ เคียงข้างควีนเอลิซาเบธที่ 2 มาตลอด นับตั้งแต่องค์พระประมุขแห่งเครือจักรภพเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี  2495 เจ้าชายฟิลิป ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ ประธานและสมาชิกองค์กรต่างๆ กว่า 780 องค์กร พระองค์ ทรงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อไป แต่จะไม่เสด็จเข้าร่วมงานขององค์กรอย่างเป็นทางการ

++บีบีซี รายงานว่าสองผู้สมัครประธานาธิบดีฝรั่งเศสคือนายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้สมัครแนวคิดสายกลางและนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครแนวคิดขวาจัด ต่างอ้างว่าประสบผลสำเร็จในการแฉข้อบกพร่องต่างๆของคู่แข่งให้สาธารณชนทราบในการอภิปรายประชันวิสัยทัศน์ทางโทรทัศน์ครั้งสุดท้าย  ก่อนการเลือกตั้งรอบที่ 2 ในวันอาทิตย์นี้ โดยนายมาครงและนางเลอเปน ใช้เวลาปะทะคารมกว่า 2 ชม.ถกเถียงกันในประเด็นปัญหาก่อการร้าย เศรษฐกิจและยุโรป โพลล์ส่วนใหญ่คาดว่านายมาครงจะชนะนางเลอเปน ในการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ด้วยคะแนนร้อยละ 59 ต่อร้อยละ 41

+++นายอัน ชอลซู ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จากพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ซ้าย เปิดเผยแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลผสม หากเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นสัปดาห์หน้า นายอัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หากเขาชนะ เขามีความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อการปฏิรูป โดยจะเชิญให้นายยู ซึงมิน ผู้สมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยมบารึน และนางซิม ซางจอง จากพรรคยุติธรรม เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล พร้อมทั้งระบุว่า เขาเป็นเพียงผู้สมัครคนเดียวที่มีโอกาสชนะนายมุน แจอิน ตัวเต็งจากพรรคประชาธิปไตยในการเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้

+++แม้ว่าสถานการณ์การเมืองอยู่ระหว่างการเตรียมเลือกตั้ง และสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดจากท่าทีที่สหรัฐฯมีต่อโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ แต่การลงทุนในตลาดหุ้น ดัชนีคอสปิ ปิดที่ 2,241.24 จุด เพิ่มขึ้น 21.57 จุด ลบสถิติสูงสุดเดิมเมื่อกว่า 6 ปีก่อน ดัชนีคอสปิปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน เนื่องจากตลาดคาดการณ์ในแง่ดี และบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น การทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ได้อานิสงส์จากหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ที่ปิดสูงสุดครั้งใหม่ เนื่องจากราคาหุ้นมีน้ำหนักต่อดัชนีถึงกว่าร้อยละ 20 นักวิเคราะห์กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทเกาหลีใต้มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนถึงร้อยละ 50 ประกอบกับมีเงินทุนไหลเข้ามากขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนมองหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจก้าวหน้าเริ่มฟื้นตัวอย่างมั่นคง ทำให้ผลดีแผ่มาถึงเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย

+++เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์ รายงานอ้างนายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงภายในประเทศว่าชาวตุรกี 2 คนคือนายเทอร์กาย คารามาน ครูใหญ่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในเมืองอิโปห์ เมืองเอกของรัฐเประก์ มาเลเซียและนายอีห์ซาน อัสลาน นักธุรกิจ ที่ถูกตำรวจมาเลเซียจับกุมในแถบชานกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้ถูกแจ้งความผิดฐานต้องสงสัยเชื่อมโยงกับกิจกรรมของกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) โดยเฉพาะการเผยแพร่อุดมการณ์ของกลุ่มไอเอสและการรับบริจาคเงินสำหรับส่งมอบให้กับกลุ่มไอเอส

+++สำนักข่าวเอพี รายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เกี่ยวกับแถลงการณ์ของกองทัพปากีสถาน สมาชิกกลุ่มตอลีบันปากีสถาน 3 คนถูกประหารชีวิต หลังศาลทหารมีคำพิพากษาว่าเกี่ยวพันกับการก่อการร้าย ปากีสถาน ประหารชีวิตนักโทษไปแล้ว 428 คน นับตั้งแต่นำโทษประหารกลับมาใช้ใหม่เมื่อปี 2557 หลังจากเกิดเหตุการณ์กลุ่มตอลีบันบุกโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 150 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน โดยผู้ถูกประหารชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักโทษคดีฆาตกรรม องค์การนิรโทษกรรมสากล และกลุ่มสิทธิมนุษยชนในปากีสถาน มักตั้งคำถามเกี่ยวกับความชอบธรรมในการพิจารณาคดีเหล่านี้ และมองว่ากองทัพไมได้ดำเนินตามกระบวนการที่เหมาะสม

+++นางออง ซาน ซูจี ผู้นำสูงสุดโดยพฤตินัยของเมียนมา ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ที่สำนักวาติกันในกรุงโรม เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนยุโรป นางซูจีและคณะผู้ติดตามเพียงไม่กี่คน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการเข้าเฝ้าโป๊ปฟรานซิส ผู้นำของชาวคาทอลิก 1,300 ล้านคนทั่วโลก นางซูจี พบปะหารือกับนายอันเจลิโน อัลฟาโน รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี และเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป(อียู) และเจ้าหน้าที่เบลเยี่ยม ในกรุงบรัสเซลส์ พร้อมกำหนดเดินทางเยือนอังกฤษด้วย

+++สมเด็จฮุน เซน นายกฯของกัมพูชา วัย 64 ปี ล้มป่วยเพราะอ่อนแรงเหนื่อยล้ามาก และจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน เขาเข้าโรงพยาบาลในสิงคโปร์ ตั้งแต่วันพุธ และมีแผนเดินทางกลับกัมพูชา เพื่อทำงานต่อไปตามปกติในวันอาทิตย์ สมเด็จฮุน เซน เคยเข้าโรงพยาบาลในสิงคโปร์ ในช่วงเวลาสั้นๆ ครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว

+++สภาพอากาศที่จีน กระแสลมแรง พัดพาเม็ดทรายและละอองฝุ่นจากทะเลทรายโกบี ปลิวลอยลงไปทางใต้ สู่ภาคเหนือของจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น หนังสือพิมพ์ประชาชนรายวันของทางการจีน รายงานว่า ท้องฟ้ามืดมัวจากละอองฝุ่น ส่งผลกระทบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ต่อไปอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันศุกร์  ประชาชนหลายสิบล้านคนใน 8 มณฑล 1 เขตปกครองตนเอง และมหานครปักกิ่ง ได้รับคำแนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัย หรือผ้าพันคอ ปิดบังจมูก เมื่อออกนอกบ้านหรืออาคาร เด็กและผู้สูงอายุ ควรอยู่ในร่ม ขณะที่การมองเห็นในกรุงปักกิ่ง ลดลงต่ำเหลือประมาณ 1 กม. พายุฝุ่นทำให้เที่ยวบินโดยสารพานิชย์ ที่บินเข้าออกท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้องประกาศยกเลิกการเดินทางอย่างน้อย 48 เที่ยว รวมถึง 6 เส้นทางบินระหว่างประเทศในเอเชียและรัสเซีย

CR:AFP