ปปง.ให้เหยื่อโชกุนยื่นเรื่องขอเงินคืนใน30วัน

การขอคืนทรัพย์สินหรือชดใช้คืนความเสียหาย ในคดีนางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ โชกุน ผู้ต้องหาหลอกประชาชนไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่น แต่กลับปล่อยลอยแพไว้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายวิทยา นิติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ตามกฎหมายของปปง.แล้ว หากมีการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวกับความผิดมูลฐานอะไรก็แล้วแต่และมีผู้เสียหายด้วย ศาลมีคำสั่งว่าให้นำทรัพย์ดังกล่าวไปคืนหรือชดใช้คืนให้กับผู้เสียหายก่อน ล่าสุดปปง.ได้ประกาศให้ผู้เสียหายเข้ามายื่นขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน ได้ภายใน30วัน นับตั้งแต่วันนี้ (4 พ.ค.) จนถึงวันที่1มิ.ย. ซึ่งขณะนี้ในส่วนของกองปราบปราม มีความเสียหายในคดี ประมาณ20-30ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ปปง.ยึดทรัพย์เงินฝากธนาคารของนางสาวพสิษฐ์และทรัพย์สินอื่นๆอีก6รายการเช่น รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์   ซึ่งจะต้องดูว่ายึดทรัพย์ได้มากน้อยแค่ไหน และ มีทรัพย์สินอะไรที่สามารถยึดเพิ่มเติมอีก  เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรายการทรัพย์สินเข้ามาเพิ่ม จากนั้นจะต้องกลับมาดูอีกว่ามีผู้เสียหายกี่ราย มีความเสียหายเท่าไร และนำจำนวนผู้เสียหายมาแบ่งสัดส่วนกับทรัพย์สินที่ยึดได้  เพื่อคืนเฉลี่ยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งการมายื่นคำร้องเจ้าหน้าที่ปปง.จะสอบถามข้อมูลด้วยว่า ผู้เสียหายเคยได้รับเงินชดใช้มาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ หากเคยรับเงินมาแล้ว จะมาสวมรอยว่ายังไม่ได้รับเงินหรือขอรับเงินเต็มจำนวนนั้นไม่ได้ ถือว่ามีความผิดในการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน

ส่วนผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด  ก็จะต้องเดินทางมาที่ปปง.ที่กรุงเทพที่เดียว เพราะจะต้องมีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเจ้าหน้าที่ แต่ต่อไปในอนาคตอาจจะพิจารณาให้ยื่นคำร้องทางไปรษณีย์ แต่ก็เป็นข้อเสียเพราะต้องใช้เวลานาน เพราะคดีเหล่านี้จะต้องใช้ความเร็วในการดำเนินการ จะช้าไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในกรอบของ90วันที่พนักงานจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอให้ศาลมีคำสั่งคืนเงินให้ผู้เสียหายด้วย ซึ่งผู้เสียหายที่ไม่มายื่นคำร้องที่ปปง.จะไม่ได้รับเงินชดใช้คืน ดังนั้นจึงขอความร่วมมือผู้เสียหายรีบเดินทางมายื่นคำร้อง อาจจะเสียเวลาเดินทางมา แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ปปง.จะดำเนินการให้ ทั้งนี้อาจจะมีเรียกผู้เสียหายบางรายไปให้การในชั้นศาลบ้าง แต่ส่วนใหญ่ศาลจะรับฟังในส่วนของสำนวนการสอบปากคำที่ปปง.นำเสนอ

ส่วนความคืบหน้าการติดตามเส้นทางการเงินนางสาวพสิษฐ์ พบเงินในบัญชีธนาคารเพียง3.2ล้านบาทและทรัพย์สินอื่นๆอีกเพียง6รายการ เช่น รถยนต์ คอนโดซึ่งจะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ส่วนผู้ต้องหาในเครือข่าย ก็จะมีการตรวจสอบเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นบุคคลร่วมขบวนการกระทำความผิด เช่น ขณะนี้สามารถยึดทรัพย์ที่เป็นเงินฝากธนาคารของนางประนอม พลานุสนธิ์ เลขานุการส่วนตัวของนางสาวพสิษฐ์ได้ประมาณล้านกว่าบาท  หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าใครมีความเชื่อมโยงบ้าง สำหรับการยื่นคำร้องดังกล่าว ผู้เสียหายจะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ เช่น หลักฐานการโอนเงิน โดยจะต้องกรอกแบบฟอร์มคำร้อง และให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ปปง.เพื่อประกอบสำนวนคดี

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ