เหมืองในอิหร่านระเบิดติดค้างกว่า 50 คน/สหรัฐทดสอบขีปนาวุธ/เฟดคงดอกเบี้ย/FBจ้างคนมอนิเตอร์โพสต์อันตราย

04 พฤษภาคม 2560, 06:49น.


ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



++++สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านว่ามีคนงานเหมืองกว่า 50 คนติดค้างอยู่หลังเกิดเหตุระเบิดในบ่อเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในจังหวัดโกเลสตาน ทางภาคเหนือของประเทศ คาดว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตหลายศพ ผู้บาดเจ็บหลายสิบคนถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาลหลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อเวลา 12.45 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวานนี้



สื่อของทางการอิหร่านรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคนหนึ่งว่าคนงานบางคนที่ติดค้างอยู่ในเหมืองอาจจะเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้ทีมกู้ภัยอยู่ระหว่างดำเนินการในที่เกิดเหตุ



+++ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือวิจารณ์สหรัฐฯกรณีใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีรุ่นบี1-บี จำนวน 2 ลำร่วมการซ้อมรบกับกองทัพเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ ระบุว่าสหรัฐฯยั่วยุทางทหารโดยขาดความยั้งคิดถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้น เกาหลีเหนือกล่าวถึงการซ้อมโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ว่าจะทำให้เกาหลีเหนือต้องเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้สำเร็จในอนาคต นอกจากนี้สื่อของเกาหลีเหนือกล่าวถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯว่ากระหายสงคราม



+++กองทัพอากาศสหรัฐยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ที่ไม่ติดหัวรบ จากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์กในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา โฆษกของกองทัพเผยกับเอเอฟพีว่าการยิงทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบปรกติที่เกิดขึ้นปีละ 4 ครั้ง โดยขีปนาวุธมินิตแมน 3 ร่อนไกล 6,700 กิโลเมตร ไปตกใกล้เกาะวงแหวนปะการังในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะมาร์แชล และเป็นสถานที่สำหรับการทดสอบขีปนาวุธของสหรัฐ ขีปนาวุธมินิตแมน 3 ชนิดนี้สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์



+++อีกด้าน รัฐบาลสหรัฐได้ร้องขอรัฐบาลจีนซึ่งถือว่าเป็นชาติพันธมิตรสำคัญที่เหลืออยู่เพียงชาติเดียวของเกาหลีเหนือว่า ควรที่จะดำเนินการให้มากกว่านี้เพื่อหาทางที่จะควบคุมโครงการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ หาไม่แล้วจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรงจากรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะยุคแห่งความอดกลั้นทางยุทธศาสตร์ได้จบสิ้นลงไปแล้ว



+++โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนชี้แจงต่อข้อถามที่ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐ การซ้อมรบ และการตอบโต้จากเกาหลีเหนือ โดยย้ำว่า สถานการณ์สับสนอย่างมากและอ่อนไหว ภารกิจสำคัญขณะนี้คือ ลดอุณหภูมิร้อนแรงลงมาและหันมาเจรจา ทั้งนี้ จีนขอร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจงอยู่ในความสงบและอดกลั้น หยุดการสร้างความขุ่นเคืองซึ่งกันและกัน ขอให้ร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งการติดต่อและเจรจาของทุกฝ่าย และหาทางที่จะกลับมาสู่เส้นทางการเจรจาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้



+++นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงที่หน้าทำเนียบนายกรัฐมนตรี เลขที่ 10 ถนนดาวนิ่งกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธ หลังจากเดินทางไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็หมายความว่า สมาชิกสภาสามัญ 650 ที่นั่งหมดวาระและเลือกตั้งใหม่ นายกรัฐมนตรีเมย์กล่าวหาว่า สหภาพยุโรป(อียู)พยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงหรือมีอิทธิพลในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น โดยข่มขู่คุกคามอังกฤษเรื่องการเจรจาถอนตัวออกจากอียู ซึ่งนายมิเชล บาร์เนียร์ ผู้แทนเจรจาของอังกฤษในการถอนตัวออกจากอียูกล่าวเตือนว่า การเจรจาถอนตัวออกมาของอังกฤษนั้น ไม่ได้ทำได้โดยง่ายและไม่เจ็บปวดอะไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวว่า จุดยืนดังกล่าวของอียูเท่ากับเป็นการจงใจเพื่อให้ส่งผลกระทบผลการเลือกตั้งในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ นอกจากนั้นก็ยังมีเจ้าหน้าที่บางคนของฝ่ายอียูไม่ต้องการที่จะเห็นการเจรจาถอนตัวของอังกฤษประสบผลสำเร็จ  



+++ ธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธ(3พ.ค.) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ระดับร้อยละ  0.75-1.0  ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซึมเซาในช่วงไตรมาสแรก โดยจีพีดีขยายตัวแค่ 0.7 เปอร์เซ็นต์ ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี เป็นประเด็นแค่ชั่วครั้งคราว พร้อมเน้นย้ำถึงตลาดแรงงานและการจ้างงานที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 47.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(3พ.ค.) หลังธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงและนักลงทุนทบทวนรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่เผยแพร่ออกมารอบล่าสุด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.01 จุด ปิดที่ 20,957.90 จุดส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,248.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน     



+++เฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศเตรียมจ้างคนเพิ่มทั่วโลก 3,000 ตำแหน่ง รับมือปัญหาการโพสต์สิ่งที่ไม่เหมาะสมบนแพลตฟอร์ม หลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากหลายประเทศที่เตรียมเรียกเก็บค่าปรับผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ยอมรับว่า  ภายในปีหน้า เฟซบุ๊กมีแผนจะเพิ่มทีมงานปฏิบัติการเพื่อมอนิเตอร์โพสต์ต่าง ๆ ที่ถูกรายงานเข้ามาว่าไม่เหมาะสม ซึ่งตัวเลข 3,000 ตำแหน่งนั้นถือว่าเฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับปัญหานี้อย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กมีพนักงานสำหรับดูแลคอนเทนต์แล้ว 4,500 คน ซึ่งเมื่อรวมกับ 3,000 คนที่จะเพิ่มเข้ามาใหม่ ก็จะทำให้เฟซบุ๊กมีพนักงานที่จะมอนิเตอร์ถึง 7,500 คนเลยทีเดียวการเพิ่มพนักงานจำนวนมากนี้เพื่อให้การตอบสนองต่อจำนวนของเหตุการณ์์การทำร้ายตัวเองหรือทำร้ายผู้อื่นแล้วมาโพสต์ผ่านบริการ Live หรือคลิปวิดีโอต่าง ๆ ที่เฟซบุ๊กทำได้รวดเร็วขึ้น  ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กแล้วกว่า 1.86 พันล้านคน 

ข่าวทั้งหมด

X