ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
++++หลังจากกรมสรรพาวุธทหารบก จัดสร้างราชรถปืนใหญ่ สำหรับงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช และส่งมอบให้กรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปดำเนินการประดับลวดลายด้านศิลปกรรม ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชนะโยธิน อุปลักษณ์ นายช่างศิลปกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ผู้ออกแบบราชรถปืนใหญ่ เผยว่า ลวดลายส่วนใหญ่ถอดแบบมาจากองค์ราชรถปืนใหญ่ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 8 แต่ได้ปรับเปลี่ยนชั้นฐานด้านล่างเป็นฐานขาสิงห์ ซึ่งแสดงถึงฐานานุศักดิ์ของพระมหากษัตริย์ จากเดิมเป็นฐานขาหมู ส่วนฐานด้านบนยังคงเป็นกลีบบัว นอกจากนี้ ยังเพิ่มการประดับลวดลายที่แคร่ปืนใหญ่และล้อเพิ่มเติมมา เพื่อให้มีความสง่างาม และสมพระเกียรติ
+++พล.ต.ศักดา ศิริรัตน์ รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ผู้ควบคุมการบูรณะซ่อมแซมระบบขับเคลื่อนราชรถ ราชยาน ในการอัญเชิญพระโกศพระบรมศพในริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ เปิดเผยว่า ขณะนี้การบูรณะระบบขับเคลื่อนของพระมหาพิชัยราชรถ ดำเนินการ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนการจัดสร้างและทำลวดลายล้อประดับพระมหาพิชัยราชรถทั้ง 4 ล้อ คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน และหากช่างสิบหมู่ดำเนินการบูรณะ ทำความสะอาดโครงสร้างองค์พระมหาพิชัยราชรถ และรื้อนั่งร้านออก กรมสรรพาวุธทหารบก จะเข้าไปติดล้อประดับ และทดสอบระบบรับน้ำหนัก การเทียบเกรินบันไดนาค ยังโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
+++ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ รายงานที่ประชุม ครม.ถึงความคืบหน้าในการจัดสร้างพระเมรุมาศฯ โดย ยืนยันว่าการจัดสร้างจะเสร็จตามกำหนดเวลาในช่วง เดือนกันยายนอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน กระทรวงวัฒนธรรมจะเชิญชวนสื่อมวลชนที่สนใจในเรื่องของการใช้คำศัพท์มาอบรมเรื่องการใช้คำศัพท์ในพระราชพิธีอย่างถูกต้อง แต่ยังไม่ได้ระบุว่าเมื่อใด
+++ หลังพล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ (เสธ.ทร.) ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ นำคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจัดหาเรือดำน้ำ Yuan Class S26T จากประเทศจีนแถลงชี้แจงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือลำแรก มูลค่า 13,500 ล้านอย่างเป็นทางการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าวว่า กองทัพเรือ (ทร.)ได้ชี้แจงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งไม่มีประเทศใดที่เอาเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์มาตีแผ่ขนาดนี้ เพราะถือเป็นการเปิดเผยข้อมูลมากเกินไป เราควรรู้เขามากกว่าเขารู้เรา แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่มีการอธิบายอย่างชัดเจน ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าจะทุจริตหรือไม่ ผมยืนยันว่าเราไม่ได้ต้องการให้เป็นอย่างนั้น แต่หวังให้กำลังพลของเราปลอดภัย ให้อาวุธยุทโธปกรณ์ใช้ได้ แต่ ยืนยันว่ามีการตรวจสอบทุกกระบวนการเหมือนการจัดซื้อจัดจ้างของทุกกระทรวง เพียงแต่เรือดำน้ำเปิดเผยคุณสมบัติมากไม่ได้ หากเราจ้องแต่เรื่องทุจริต และกล่าวหาว่าเป็นการซื้อของห่วยๆ คงไม่ได้ เพราะไม่มีใครต้องการเอาชีวิตของผู้บังคับบัญชาไปเดิมพันกับเรื่องเหล่านี้ ระหว่างประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เข้าร่วมประชุมตามปกติ เมื่อประชุมผ่านไปครึ่งหนึ่งของวาระที่เข้าสู่การพิจารณา และได้พักเบรกการประชุม พล.อ.ประวิตรขออนุญาตนายกฯลาการประชุมครม.ในช่วงการประชุมครึ่งหลัง โดยแจ้งว่า มีอาการเจ็บหูมาก ไม่ทราบสาเหตุ ขอเดินทางไปพบแพทย์และช่วงที่พล.อ.ประวิตรลงมาจากตึกบัญชาการ 1 ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ที่จะสิ้นสุดสัญญาว่าจ้างเดินรถในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ และ กทม.มีแผนจะให้บริการต่อไปว่า กทม.ได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของ กทม. เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถบีอาร์ทีหลังจากสิ้นสุดสัญญา โดย กทม.จะไม่สนับสนุนงบประมาณเป็นเวลา 6 ปี ขณะเดียวกันจะเริ่มปรับค่าโดยสารเป็น 15 บาทตลอดสายตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งจากผลสำรวจถือเป็นราคาที่ประชาชนรับได้ และจะยกเว้นค่าโดยสารให้กับนักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 6 ปี กทม.จะประหยัดงบประมาณได้มากกว่า 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นเงินของรัฐบาลหรือเป็นเงินจากภาษีประชาชน กทม.จะพยายามช่วยประหยัด ยืนยันว่าโครงการนี้ กทม.จะไม่เสียแม้แต่บาทเดียว
+++วันนี้ เวลา 14.00 น. นายวัฒนา เมืองสุข จะยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับคดีที่ให้ความเห็นว่า "หมุดคณะราษฎร เป็นโบราณวัตถุ" ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ชั้น4 ฝั่งทิศใต้ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารB) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถ.แจ้งวัฒนะ
+++ ธปท.-กสทช.-สมาคมธนาคารไทย และสมาคมโทรคมนาคม ลงนามยกระดับความปลอดภัยบริการการเงินผ่านมือถือ หวังคนมั่นใจใช้พร้อมเพย์มากขึ้น นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่ากรณีที่มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนในการใช้บริการทางการเงิน รวมทั้งกรณีสกุลเงินดิจิทัล “วันคอยน์” นั้น ธปท.ติดตามการหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง และหากเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล หรือเกรงว่าจะเป็นการหลอกลวงประชาชน ธปท.จะแจ้งเตือนให้ทราบเป็นระยะๆ หรือในกรณีที่ประชาชนไม่มั่นใจในการทำธุรกรรมใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกรรมทางการเงิน สามารถสอบถามศูนย์คุ้มครองการใช้บริการทางการเงินได้ผ่านเบอร์โทร.1213 ร่วมถึงยังได้รับร้องเรียนกรณีของการเปิดบัญชีผิดกฎหมาย มีการเปิดเฟซบุ๊กรับซื้อบัญชีเงินฝาก และจ้างเปิดบัญชี ทั้งกรณีที่มีประชาชนยินยอมให้คนอื่นนำชื่อไปเปิดบัญชี หรือเปิดบัญชีและนำไปขายให้กลุ่มมิจฉาชีพ เพื่อนำไปทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขอเตือนว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และหากมีการนำบัญชีดังกล่าวไปทำผิด ผู้ที่เป็นเจ้าของบัญชีก็จะมีความผิดด้วย แนวทางการรู้จักตัวตนผู้บริโภค หรือ KYC (Know Your Customer) เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ ธปท.จะดำเนินการในช่วงต่อไป ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีชีวภาพเข้ามาเป็นหนึ่งในแนวทางการพิสูจน์ตัวตนในการเปิดบัญชี หรือทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การพิสูจน์ลายนิ้วมือ หรือสแกนม่านตา โดยในขณะนี้มีฟินเทคบางรายได้เสนอขอเข้ามาทดลองการทำธุรกรรมดังกล่าว
+++ความคืบหน้าการติดตามจับกุม รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา ผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีหลอกลวงเพื่อนอาจารย์จุฬาฯนำเงินมาร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่ พลตำรวจตรีสุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอีกว่า 10 คน เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงการโอนเงินจากผู้เสียหายเข้าบัญชีบุคคลเหล่านี้ โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 400 ล้านบาท แม้ยอดเงินในบัญชีจะไม่เหลือแล้วก็ตาม แต่ชุดติดตามเส้นทางการเงินของ ป.ป.ง.ยังเดินหน้าตรวจสอบว่ามีการโอน โยกย้ายเงินไปให้ผู้ใดบ้าง เพื่ออายัดเงินที่เหลือใช้คืนผู้เสียหาย ยืนยันยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ หากตรวจพบผู้ใดให้ที่พักพิงจะถูกดำเนินคดีเช่นกัน เพราะผู้ต้องหาเป็นบุคคลหนีหมายจับในคดีอาญา และว่าจะมีข่าวดีในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
+++พลตำรวจตรีอภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าตำรวจสากลไทย ระบุว่า ภายใน 3-4 วัน ตำรวจสากลอังกฤษ ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ จะรายงานให้ทราบว่านายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต พำนักอยู่ประเทศอังกฤษหรือไม่ โดยตำรวจสากลอังกฤษ ติดตามข่าวจากสื่อไทยที่รายงานข่าวเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและเฝ้าจับตาให้ก่อนการประสานแล้ว โดยในหนังสือที่ส่งไปเน้นย้ำ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญและสังคมไทยสนใจข่าวนี้ อย่างไรก็ตาม หากตำรวจสากลอังกฤษ ยังไม่รายงานผล ต้องลุ้นว่ากระบวนการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนโดยอัยการสำนักงานต่างประเทศ จะเชื่อหลักฐานที่มีการเผยแพร่ผ่านยูทูบ หรือข่าวต่างประเทศที่รายงานว่านายวรยุทธ พำนักอยู่ที่อังกฤษหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่า สน.ทองหล่อ ควรเร่งประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ขึ้นบัญชีเข้าระวังหรือวอทช์ลิสต์นายวรยุทธ อยู่วิทยา หากเดินทางเข้ามาจะได้ควบคุมตัวทันที
+++วันนี้ วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ส่วนเมื่อวานนี้ ตัวแทนสมาคม และองค์กรสื่อมวลชน นำยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพื่อคัดค้านและขอให้ยกเลิกร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ที่ผ่านการพิจารณาของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งประเทศไทย(สปท.) โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนวทางแก้ไขปัญหากับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรมคณะกรรมการกฤษฎีกาในการหารือรับฟังความคิดเห็นเพราะเรื่องนี้ถึงขั้นตอนของรัฐบาลแล้ว เมื่อผ่านขั้นตอน ของ สปท.เขาทำความเห็นมา เราก็รับมาพิจารณาแต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังมีขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช.อีก 3 วาระ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกมธ.ชี้แจงว่า กมธ.ขอเสนอแก้ไขในสาระได้แก่ปรับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เป็นการออกใบรับรองผ่านองค์กรสื่อมวลชนที่สื่อมวลชนสังกัดแล้วโดยกมธ.มีเวลาจะแก้ไข ปรับปรุงตามข้อสังเกตสปท.ภายใน 30วันจะพิจารณาในสัปดาห์หน้าได้วางแนวทางคือให้เจ้าหน้าที่ถอดคำอภิปรายของสปท.ทั้ง20คนเพื่อนำความเห็นที่เป็นประโยชน์มาปรับปรุง