ทรัมป์สายตรงปูติน หารือยุติปัญหาซีเรีย/ผู้นำเยอรมนีเยือนรัสเซีย/จีน ขอให้สหรัฐยุติติดตามระบบต่อต้านขีปนาวุธในเกาหลีใต้

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

++++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย  ได้ต่อสายตรงพูดคุยกันทางโทรศัพท์กันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สหรัฐ ยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มซีเรีย โดยหารือกันถึงแนวทางยุติความรุนแรงในซีเรีย ในนั้นรวมถึงจัดตั้งเขตปลอดภัย ทำเนียบขาวระบุว่าสหรัฐจะส่งผู้แทนเข้าร่วมโต๊ะเจรจาหยุดยิงซีเรียในอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน ในวันพุธ(3พ.ค.)และพฤหัสบดี(4พ.ค.) ด้วย  ด้านประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เรียกร้องให้อดทนอดกลั้นและลดระดับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี สู่เมืองตากอากาศโซชิริมฝั่งทะเลดำในวันนี้เพื่อหารือในหลายประเด็นปัญหาสำคัญๆ โดยเฉพาะปัญหาวิกฤติในยูเครนและซีเรีย การประชุมสุดยอดครั้งนี้มีขึ้นที่บ้านพักประจำฤดูร้อนของผู้นำรัสเซียเป็นการเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกของนางแมร์เคิลในรอบ 2 ปีและมีขึ้นขณะที่ผู้นำรัสเซียยอมรับว่าเป็นช่วงเวลาที่สัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองมีปัญหาในหลายๆเรื่อง ที่ผ่านมาสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีกับรัสเซียสั่นคลอนอย่างต่อเนื่องสืบเนื่องจากการที่รัสเซียเข้าไปพัวพันกับปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน การที่เยอรมนีและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ลงมติคว่ำบาตรรัสเซียและข้อครหาที่ว่ารัสเซียเข้าพัวพันกับการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนีที่จะมีขึ้นปลายปีนี้

+++นายเกง ชวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนว่ารัฐบาลจีนขอให้รัฐบาลสหรัฐฯระงับการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธพิกัดสูงหรือทาดในเกาหลีใต้โดยทันที ไม่กี่ชม.หลังกองกำลังสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้แถลงว่าระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวพร้อมเปิดใช้งานแล้วในระยะแรกและพร้อมจะเปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในปลายปีนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่ารัฐบาลจีนคัดค้านการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธทาดในเกาหลีใต้และขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหยุดการติดตั้งระบบขีปนาวุธนั้นโดยทันที เพิ่มเติมว่าประเทศจีนจะดำเนินมาตรการต่างๆที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง แรกเริมเดิมทีสหรัฐฯและเกาหลีใต้ตกลงจะเริ่มติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธนั้นในเดือนกรกฏาคมนี้ หลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธมาหลายครั้งแล้ว แต่ได้ร่นเวลามาติดตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศจีน ซึ่งหวั่นเกรงว่าอาจจะกระทบต่อศักยภาพด้านขีปนาวุธของประเทศจีนเอง ระบุอีกว่าเรื่องนี้กระทบต่อดุลภาพด้านความมั่นคงในภูมิภาค

++++นายยูคลิด ซาคาโลโตส รัฐมนตรีต่างประเทศกรีซว่ารัฐบาลกรีซสามารถบรรลุข้อตกลงกับคณะเจ้าหนี้นานาชาติคือสหภาพยุโรป(อียู)และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) หลังการรอคอยมาหลายเดือน เขาบอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงเอเธนส์ในวันนี้ว่าเริ่มมีการปล่อยควันขาวจากปล่องไฟแล้ว เขาใช้ถ้อยคำนี้ในเชิงอุปมากับกรณีที่ประชุมตัวแทนพระคาร์ดินัลสามารถคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้สำเร็จข้อตกลงนี้ จะปูทางไปสู่การอนุมัติเงินกู้เร่งด่วนให้กับกรีซภายใต้ข้อตกลงช่วยกู้วิกฤติรอบล่าสุดของเจ้าหนี้นานาชาติ แต่มาตรการปฏิรูปต่างๆตามที่กลุ่มอียูและไอเอ็มเอฟต้องการนั้นจะกระทบข้าราชการบำนาญพอสมควรคือสวัสดิการบำเหน็จบำนาญของพวกเขาจะถูกลดร้อยละ 9 ในปี 2562 ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงเรื่องการปฏิรูปภาคแรงงานและพลังงานและแผนปรับขึ้นภาษี ขั้นตอนจากนี้ไป รัฐสภากรีซจะต้องพิจารณาผ่านร่างกฎหมายใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนที่รัฐมนตรีคลังจากเขตยูโรโซนจะอนุมัติเงินกู้งวดใหม่ เพื่อช่วยให้กรีซชำระหนี้ราว 7,000 ล้านยูโรในเดือนกรกฎาคมนี้ สำหรับการประชุมนัดต่อไปของรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนจะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ที่ประชุมจะหารือเรื่องการลดหนี้ให้กับกรีซด้วย

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร  ปิดบวกเล็กน้อย หลังสภาคองเกรสยังไม่มีบทลงโทษสายการบินต่างๆที่มีปัญหาด้านการบริการอย่างที่กังวล ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 36.43 จุด ปิดที่ 20,949.89 จุด เอส หุ้นของยูไนเต็ด คอนติเนนตัล แอร์ไลนส์ ทะยาน 5.2 เปอร์เซ็ต์ หลัง ออสการ์ มูนอซ ซีอีโอ กล่าวขอโทษอีกครั้งระหว่างให้ปากคำกับสภาคองเกรส ต่อกรณีใช้กำลังนำตัวผู้โดยสารคนหนึ่งลงจากเที่ยวบินที่ขายตั๋วเกินเมื่อเดือนที่แล้ว

+++คณะกรรมาธิการด้านการขนส่งของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เปิดพิจารณารับฟังปัญหาด้านการบริการลูกค้าที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมด้านการบิน อย่างไรก็ตามพวกเขาเพียงขู่ว่าจะออกกฎระเบียบใหม่ๆหากว่าเหล่าหลายสายการบินไม่ยอมปรับปรุงงานบริหารให้ดีขึ้น คลายความกังวลก่อนหน้านี้ว่าทางคณะกรรมาธิการฯอาจมีบทลงโทษออกมานักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวต่างๆอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะออกคำแถลงทางนโยบายด้านการเงินในวันพุธ(3พ.ค.) แม้คาดหมายว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยปัจจัยนี้เองที่ทำให้ราคาทองคำในวันอังคาร(พ.ค.) ปิดบวกในกรอบแคบๆ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++นางออง ซาน ซูจี ผู้นำเมียนมา ตัดสินใจปฏิเสธคำเชิญไปพบปะกับ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กรุงวอชิงตัน ในสัปดาห์นี้ ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย จะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง นายอ่อง ตุน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ เดินทางไปแทน การพบหารือที่กรุงวอชิงตันมีขึ้นท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่า ทิศทางการทูตของบรรดาประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งรวมถึงเมียนมา กำลังเอนเอียงไปทางจีน ขณะที่นโยบายต่ออาเซียนของรัฐบาลสหรัฐโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงคลุมเครือ คาดว่ารัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มชาติอาเซียน จะพบปะกับทิลเลอร์สันในวันพฤหัสบดี (4 พ.ค.) เพื่อหารือกันในประเด็นต่างๆ ที่รวมถึงการค้า การอ้างกรรมสิทธิเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้  และอาชญากรรมประธานาธิบดีถิ่น จอ ของเมียนมา ใช้เวลาเยือนจีน 6 วันเมื่อเดือนที่แล้ว และได้ลงนามข้อตกลงโครงการท่อส่งน้ำมัน จากอ่าวเบงกอลผ่านเมียนมาไปยังเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ทางภาคใต้ตอนกลางของจีน และนางซูจีเตรียมเดินทางเยือนปักกิ่ง เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด โครงการสาธารณูปโภคเส้นทางสายไหมใหม่แห่งศตวรรษที่ 21 "1 แถบ 1 เส้นทาง" ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในกลางเดือนนี้ ขณะนี้ นางซูจีเดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงเบลเยี่ยม เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นจุดหมายแรกของการเยือนยุโรปอย่างเป็นทางการ โดยเธอจะเดินทางต่อไปอังกฤษและอิตาลี