ความคืบหน้าการดำเนินการคดีกับกลุ่ม "นกฮูกน้ำเพียงดิน"ขบวนการค้าประเวณี ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช่วงบ่ายนี้พลตำรวจตรีชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีกรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)เข้ารายงานความคืบหน้า กับพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีคดีในความรับผิดชอบทั้งสิ้น 33 คดี มีผู้ถูกดำเนินคดีเป็นเครือข่ายค้าประเวณีรวม 15 กลุ่ม ภายหลังใช้เวลาประมาณ90นาทีในการประชุม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ล่าสุดศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน คือ สิบตำรวจเอกนิรันดร์ สายจันทร์ ,สิบตำรวจตรีพิทักษ์ สมกุล และ สิบตำรวจโทเพชร เตชะโอฬาร สังกัดสถานีตำรวจภูธรกองก๋อย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในข้อหา "พรากผู้เยาว์เพื่อทำอนาจารในลักษณะโทรม" โดยมีคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วเพราะถือเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง ส่วนรองผู้กำกับการ สารวัตร และสิบเวร ที่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบไว้ก่อนหน้านั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
ส่วนที่มีการกล่าวหาผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเกี่ยวข้องกับการซื้อประเวณีผู้เสียหายด้วยนั้น และกระทรวงมหาดไทยได้มีการสอบทางวินัยพบว่าไม่มีความผิด แต่ก็ได้มีการสอบปากคำประจักษ์พยาน โดยให้ข้อมูลว่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอีกครั้งว่าพยานคนดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ยืนยันว่าจะดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนการทำงานของกระทรวงมหาดไทยนั้น ยืนยันว่าไม่กระทบต่อการดำเนินคดีตามตามกระฎหมายอาญาของตำรวจ เพราะเป็นคนละส่วนกัน ขณะเดียวกันได้เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 8 คน ที่เป็นแม่เล้าของเครือข่ายค้าประเวณี รวมถึงที่ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบนายตำรวจที่มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าประเวณี นี้ คาดจะทราบผลภายใน 30 วัน
ด้านผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมแล้ว มีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องอีกไม่ต่ำกว่า 2 คน คาดจะสามารถออกหมายจับได้ภายใน 2 วันนี้