+++สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่เข้าสู่วันที่16 มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย649ศพ และชาวอิสราเอล31ศพ ตั้งแต่อิสราเอลโจมตีกาซาเมื่อวันที่8ก.ค.องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์หรือพีแอลโอ ซึ่งเป็นองค์กรกำหนดนโยบายของปาเลสไตน์ที่นำโดยประธานาธิบดีมาห์มูดอับบาส ผู้นำปาเลสไตน์เห็นชอบข้อเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสยุติความเป็นปรปักษ์กับอิสราเอลในฉนวนกาซา และยังมีการยิงตอบโต้กันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการโจมตีทางอากาศในเมืองคานยูนิสภาคใต้ของฉนวนกาซาทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย5ศพ และทหารอิสราเอลเสียชีวิต1นาย
+++สายการบินจำนวนมากจากสหรัฐและยุโรป ต่างประกาศระงับเที่ยวบินไปยังสนามบินเบนกูเรียน ในเมืองเทลอาวีฟของอิสราเอล หลังจากมีการยิงจรวดเข้าไปตกห่างจากสนามบินเพียง1.6กิโลเมตรเท่านั้น วันนี้ สายการบินยูเอส แอร์เวย์มีแผนรื้อฟื้นการให้บริการบินตรงจากฟิลาเดลเฟียไปยังเทลอาวีฟ หลังจากมีคำสั่งระงับเที่ยวบินไปอิสราเอลชั่วคราว
+++ด้านนายบันคี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น) และนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็อยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงต่อสู้กันโดยทั้งสองคนเรียกร้องให้ยุติความเป็นปรปักษ์ทันทีและย้ำให้แก้ปัญหาต้นตอของความขัดแย้ง
+++ด้านนายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า นายนรากร กิตติยังกุล ชาว จ.น่าน ซึ่งเป็นแรงงานไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเนื่องจากเหตุโจมตีทางอากาศ ที่โมชาฟ เนติฟฮาซาวา เขต Hof-Ashkelon ห่างเทลอาวีฟไปทางใต้ประมาณ 70 กม. วันที่ 23 ก.ค.เวลา12.00น.ตามเวลาท้องถิ่น ด้านกระทรวงการต่างประเทศ ประสานนายจ้างเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ ส่งศพ แรงงานไทยในอิสราเอลกลับ และแจ้งญาติแล้ว รวมถึงแจ้งอิสราเอลพิจารณาย้ายแรงงานไทยจากจุดดังกล่าว มีรายงานว่า แรงงานไทย 4-5 คน ออกไปภายนอกเมื่อมีการโจมตีทางอากาศ ได้กระจายกันหลบตามต้นไม้ แต่มีแรงงานไทย 1 คนเสียชีวิตจากเหตุโจมตีทางอากาศ เนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่ที่จรวดตกลงมา นายสุเมธ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ หากแรงงานไทยในพื้นที่หรือจุดเสี่ยงต้องการเดินทางกลับก็ขอให้แจ้งมาจะไปอำนวยความสะดวกรับที่สนามบิน ขณะที่เมื่อคืนนี้ได้ประสานไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต เรื่องการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลและเรื่องเงินชดเชยให้กับแรงงานในการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ มีแรงงานไทยทำงานอยู่ที่อิสราเอลประมาณ 27,000 คน
+++เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสาร เอทีอาร์ 72 เที่ยวบิน จีอี 222 ของ ทรานส์เอเชีย แอร์เวย์ สายการบินภายในประเทศของไต้หวัน เที่ยวบินดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร 54 คน พร้อมนักบินและลูกเรืออีก 4 คน ออกเดินทางไปจากกรุงไทเป ตกกระแทกพื้นใกล้รันเวย์ ขณะพยายามร่อนลงจอดฉุกเฉิน ที่สนามบินเมืองหม่ากง บนหมู่เกาะเผิงหู นอกชายฝั่งทางตะวันตก กึ่งกลางระหว่างเกาะใหญ่ไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 51 ศพ บาดเจ็บ 7 คน นายฌอน เฉิน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนไต้หวัน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ลำตัวเครื่องบิน เหตุเกิดขณะที่พายุไต้ฝุ่นมัตโมพัดกระหน่ำเข้าสู่ไต้หวัน ทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมพายุรุนแรง
+++พายุไต้ฝุ่นมัตโมได้ขึ้นฝั่งแถบตะวันออกเฉียงใต้ของจีนแต่อ่อนกำลังกลายเป็นพายุโซนร้อน โดยหลังจากพายุมัตโมกระหน่ำไต้หวัน มีผู้เสียชีวิต 1ศพ บาดเจ็บ 9คน ไฟฟ้าดับสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน31,505 ครัวเรือน พายุดังกล่าวได้ขึ้นฝั่งที่จีนบริเวณมณฑลฝูเจี้ยนที่มีประชากรอาศัยหนาแน่น หลังจากนั้นพายุอ่อนกำลังกลายเป็นพายุโซนร้อนความเร็วลมลดลงเหลือ 108กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัว 20กิโลเมตรต่อชั่วโมง
+++ขณะที่กระทรวงกิจการพลเรือนจีนได้ปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุรามสูรเป็น56 ศพ และสูญหาย20 ราย แต่เมื่อรวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดตั้งแต่จีนเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ปรากฏว่ายอดทั้งสิ้น 161ศพ
+++สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสดพิธีไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ MH 17 ตก และลดธงครึ่งเสา หลังจากเครื่องบิน 2 ลำที่บรรทุกศพชุดแรกจากเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่ถูกยิงตกในยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เดินทางถึงเมืองไอนด์โฮเฟน ทางภาคใต้ของเนเธอร์แลนด์ แล้ว เครื่องบินซี-130 ของกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์และเครื่องบินซี-7 ของกองทัพอากาศออสเตรเลียได้ลำเลียงศพชุดแรก 40 ศพ ไปถึงท่าอากาศยานเมืองไอนด์โฮเฟน โดยมีบรรดาญาติผู้โดยสารที่เสียชีวิต นายกรัฐมนตรีมาร์ค รัตต์ และสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเล็ม-อเล็กซานเดอร์ ของเนเธอร์แลนด์ รอรับศพอยู่ที่สนามบิน เมื่อเครื่องบินลงจอด ทหารกองเกียรติยศของเนเธอร์แลนด์ได้ลำเลียงศพลงจากเครื่องบินทีละโลงเพื่อบรรทุกในรถยนต์ ก่อนจะขับเคลื่อนไปยังหน่วยทหารแห่งหนึ่ง เพื่อรอการชันสูตรศพ ก่อนจะส่งมอบให้กับครอบครัวต่อไป
+++นายกรัฐมนตรีโทนี แอบบอตต์ ของออสเตรเลีย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ศพผู้เสียชีวิตยังคงหลงเหลืออีกเป็นจำนวนมากในบริเวณที่เครื่องบินตกในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน และศพเหล่านี้อาจถูกรบกวนหรือได้รับความเสียหายจากความร้อนและสัตว์ป่า จึงขอเรียกร้องให้มีการค้นหาและกู้ศพผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
+++รัสเซีย ประกาศว่า ได้เริ่มขยายและปรับปรุงกองเรือทะเลดำที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไครเมียแล้ว ด้วยการเสริมกองเรือและเรือดำน้ำชุดใหม่ หลังจากผนวกคาบสมุทรนี้เมื่อเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวระหว่างการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติว่า จะต้องเสริมศักยภาพด้านกลาโหมของประเทศอย่างเต็มที่และทันที เพื่อคานอิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่คืบคลานมาใกล้ชายแดนรัสเซีย รวมถึงไครเมีย
+++เกิดเหตุโจมตีด้วยระเบิด 2 ครั้ง ในเมืองคาดูนา ทางภาคเหนือของไนจีเรีย มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุการณ์แรก มือระเบิดพลีชีพ คาดสายระเบิดซ่อนในเสื้อผ้า บุกเข้าหา ชีค ดาฮิรู บาอูชิ ผู้นำทางศาสนาสายกลาง ที่กำลังจะนำประชาชนประกอบพิธีทางศาสนา แต่ถูกกลุ่มองครักษ์สกัดกั้นไว้ คนร้ายจึงตัดสินใจดึงชนวนระเบิด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 32 ศพ ขณะที่นายบาอูชิเป้าหมาย ไม่ได้รับอันตราย ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา คนร้ายใช้ระเบิดรถยนต์ หรือคาร์บอมบ์ ดักโจมตีขบวนรถยนต์ของ พล.ต.มูฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำฝ่ายค้าน และคณะผู้ติดตาม ขณะแล่นผ่านตลาดชุมชนคาโวของเมืองคาดูนา ที่มีประชาชนพลุกพล่าน แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 ศพ แต่พล.ต.บูฮารีปลอดภัย เนื่องจากอยู่ในรถยนต์อเนกประสงค์หุ้มเกราะกันกระสุน การโจมตีทั้ง 2 ครั้งคล้ายกับวิธีการของกลุ่มก่อการร้าย โบโก ฮาราม
+++เกิดภาวะอากาศร้อนอบอ้าวอย่างต่อเนื่องทั่วญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 3ศพ และล้มป่วยด้วยโรคลมแดดอีกกว่า 3,000 คน เมื่อวานนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยในเมืองหลวงกรุงโตเกียว วัดได้ 33 องศาเซลเซียส และอากาศมีความชื้นสูง ขณะที่ ฤดูฝนที่ยาวนานเป็นเดือนเพิ่งสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชราวัย76ปี ถูกพบนอนสลบอยู่ในเรือนกระจก ที่เมืองแถบชายฝั่งตะวันออกของกรุงโตเกียว
+++ที่ประเทศจีน สำนักงานอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า หลายมณฑลในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก เผชิญความร้อนระอุ อุณหภูมิบางแห่งสูงถึง 35 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะเมืองฝูโจวทางตอนใต้ คลื่นความร้อนทำให้ถนนหลายสายละลาย และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง แต่ที่เมืองหังโจว อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นถึง 45 องศาเซียสในช่วงกลางวัน ทางการท้องถิ่นต้องเปิดที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ประชาชนเพื่อหลบแดด และเมืองไถ้อันในมณฑลชานตง ทางตะวันออก เกิดเหตุรถยนต์ไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคันอย่างฉับพลัน หลังจากรถตากแดดนานหลายชั่วโมง
+++ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดผสมผสาน แต่เอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ หลังรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิล ดาวโจนส์ ลดลง 25.69 จุด ปิดที่ 17,087.85 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.66 จุด ปิดที่ 1,987.19 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.68 จุด ปิดที่ 4,473.70 จุด
+++ราคาทองคำ ขยับลงเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,304.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++ราคาน้ำมันขึ้น รัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยสต๊อกเชื้อเพลิงลดลงเกินคาดหมายบ่งชี้ถึงอุปสงค์แข็งแกร่ง
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 103.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
CR:นักข่าวไต้หวัน