จากกรณีเหตุพ่อกับยายและป้าพากันยื้อแย่งตัวเด็กแฝด 2 คน วัย 7 ขวบ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีษะเกษ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากแม่เด็กแฝดเสียชีวิตตอนคลอด ทำให้ป้าและยายเป็นฝ่ายดูแล แต่ต่อมาบิดาของเด็กได้พาเด็กไปดูแลต่อ
นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี ยายของเด็กหญิงฝาแฝด น้องใบบัว ใบตอง และครอบครัว พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เดินทางเข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน เพื่อขอพบหน้าหลาน โดยเล่าว่า ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา พ่อของเด็ก และทนายความ มานำตัวหลานไปอยู่ด้วยที่ จ.นนทบุรี ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้พบหน้าหลาน และไม่สามารถติดต่อกับพ่อเด็กได้ จึงรู้สึกเป็นกังวลและเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน เป็นอย่างมาก ระหว่างที่นั่งรอ ยายก็หยิบรูปของน้องขึ้นมาดูด้วยความคิดถึง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นนทบุรีได้เป็นตัวกลางนัดเจรจาทั้งสองฝ่าย ที่ที่ว่าการอำเภอไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยมีเพียงครอบครัวของทางพ่อเด็กเดินทางมาโดยไม่มีเด็กเดินทางมาด้วย แต่ในวันเดียวกันนั้นนางเสาร์ ผู้เป็นยาย ก็ไม่ได้เดินทางไปพบตามนัดด้วย เนื่องจากป่วย มีอาการปวดท้องรุนแรง จึงไม่สามารถเดินทางไปตามนัดได้
นอกจากนี้นางเสาร์ยังบอกว่า ตนไม่เคยเห็นใบทะเบียนสมรสของลูกสาวตนกับพ่อเด็ก ว่ามีจริงหรือไม่ และในใบสูติบัตร ก็ไม่ได้ระบุการสมรส แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นกังวลคือความเป็นอยู่ของหลาน อยากพบหลานว่ามีความสุขตามที่พ่อเด็กกล่าวอ้างหรือไม่ หากวันนี้ไม่พบหน้าหลาน จะขอนอนรอที่กองปราบ
ด้านนายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ ระบุว่า วันนี้จะมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อขอพบเด็ก และเจรจาเพื่อหาทางออก ให้เกิดผลดีที่สุดกับตัวของเด็กเอง ถึงแม้ว่ากฎหมายจะระบุว่าพ่อของเด็กมีสิทธิ์ตามกฎหมายนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ศาลจะต้องมองความสุขของเด็กเป็นที่ตั้ง อีกทั้งยังไม่เห็นเอกสารการสมรสด้วย เบื้องต้น พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องไว้ และสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว และจะดำเนินการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี