นายคิม คี จุง ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของนายมุน แจ-อิน ตัวเต็งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ แสดงความเห็นกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ต้องการให้เกาหลีใต้ชำระเงินจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการติดตั้งระบบการป้องกันขีปนาวุธ “ทาด” ว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะถึงแม้เกาหลีใต้จะจัดซื้อระบบดังกล่าว แต่ในแง่ของการปฏิบัติการก็ยังคงตกอยู่ในมือสหรัฐฯ ขณะที่นางบอนนี เกลย์เซอร์ ผู้เชี่ยวชาญเอเชีย ประจำศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ หรือ CSIS เห็นว่า ข้อคิดเห็นของผู้นำสหรัฐฯ ขาดความคิดในเชิงยุทธศาสตร์ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้พันธมิตรช่วยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการป้องกันประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ พล.ร.อ.แฮร์รี่ แฮร์ริส ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ระบุว่า ระบบ “ทาด” จะเริ่มใช้งานได้จริงในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ชาวเกาหลีใต้บางส่วนได้เริ่มประท้วงการติดตั้งระบบดังกล่าว เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัย เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายสงคราม
ด้านโฆษกนายมุน แจ-อิน แถลงในโอกาสที่เกาหลีเหนือประสบความล้มเหลวในการยิงทดสอบขีปนาวุธ เรียกร้องให้นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ยุติพฤติกรรมยั่วยุต่อเนื่องโดยทันที และหันมาให้ความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงการยกเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อช่วยปกป้องเกาหลีเหนือ แทนที่จะทำลายประเทศเอง
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP