+++ความคืบหน้าการสร้างพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขึ้นโครงสร้างเรือนยอดบุษบกพระเมรุมาศแล้ว ซึ่งพระเมรุมาศดำเนินการไปแล้วมากกว่าร้อยละ 75 แต่ถ้ารวมเรื่องพระราชยาน พระราชรถ ศาลา และอื่นๆเสร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 60 การดำเนินงานจะเสร็จก่อนสิ้นเดือน ก.ย. และจะพิจารณารายละเอียดในสิ่งที่ทำยาก เช่น ลายกระจัง ลายกระหนกและสัตว์มงคลในป่าหิมพานต์ ที่จะต้องใช้ความประณีตและทำควบคู่กันหมด โดยในกลางเดือน พ.ค.ส่วนประกอบอื่นๆ จะสามารถนำมาประกอบได้ และโครงสร้างก็จะเสร็จเกือบหมด ทั้งนี้ในวันที่ 28 เม.ย.จะลงพื้นที่ตรวจการก่อสร้าง
+++พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในวันที่ 12 พ.ค. จะจัดในพื้นที่ที่ถัดจากพื้นที่แสดงนิทรรศการไปทางบริเวณฝั่งแม่พระธรณี ไม่กระทบพื้นที่บริเวณที่สร้างพระเมรุมาศ
+++นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการ โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง รายงานระบุว่า การเดินทางมาพบนายกฯ ครั้งนี้ของเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ประเด็นสำคัญในการหารือคือ การที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนระหว่างวันที่ 28 -30 เม.ย.นี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งสหรัฐฯ ต้องการให้กลุ่มประเทศอาเซียนได้พูดคุยกัน โดยเฉพาะประเด็นของเกาหลีเหนือและอยากให้ทุกๆประเทศยึดตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) ที่ 2321 (ค.ศ. 2016) เกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตร
+++การเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยในการประชุม นายมาร์เซียโน เปย์นอร์ ประธานคณะทำงานระดับชาติของฟิลิปปินส์ ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เปิดเผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ จะส่งกำลังทหาร-ตำรวจและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกว่า 4 หมื่นนายไปยังกรุงมะนิลา เพื่อดูแลความเรียบร้อยในช่วงจัดการประชุม ซึ่งในการประชุมวันเสาร์ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ จะทำหน้าที่ประธานการประชุมในฐานะประธานกลุ่มอาเซียนในปีนี้ โดยมีผู้นำจากบรูไน, กัมพูชา,อินโดนีเซีย,ลาว,มาเลเซีย,สิงคโปร์,ประเทศไทยและเวียดนาม เข้าร่วมประชุม ส่วนเมียนมาร์จะส่งนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งเมียนมาร์เข้าร่วมประชุมแทนประธานาธิบดีถิ่น จอว์ ที่ไม่สามารถจะเดินทางมาร่วมการประชุมครั้งนี้ได้
+++บีบีซี รายงานอ้างพลเรือเอกแฮร์รี ฮาร์ริส ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯประจำภาคพื้นแปซิฟิกซึ่งกล่าวต่อคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสว่ากองทัพสหรัฐฯสามารถเปิดใช้ระบบต้านขีปนาวุธล้ำสมัย(ทาด)ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเกาหลีใต้จากการโจมตีของเกาหลีเหนือ ระบบต้านขีปนาวุธทาดถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือมีสติกลับคืนมา ไม่ใช่มุ่งทำลายล้างให้แพ้อย่างราบคาบ
+++แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ประจำเทียบขาวของรัฐบาลเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯวางแผนจะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือให้รุนแรงมากขึ้น มาตรการกดดันทั้งหมดนี้เพื่อต้องการให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ ยอมเจรจากับสหรัฐฯและพันธมิตรเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสันติ หนึ่งในทางเลือกที่สหรัฐฯอยู่ระหว่างการพิจารณาคือการให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำเกาหลีเหนือในรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนก่อการร้าย
+++นายคำนูณ สิทธิสมาน เลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (วิปสปท.) เปิดเผยว่า วิปสปท.บรรจุระเบียบวาระการประชุม สปท. 2 วัน วันที่ 1 พ.ค. จะพิจารณารายงานการปฏิรูปของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อมวลชน จำนวน 2 เรื่อง 1.เรื่อง การปฏิรูปการสื่อสารมวลชน : ร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .... และร่างพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... 2.เรื่องผลการศึกษาและข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ นายคำนูณ กล่าวว่า วิปสปท.ได้พิจารณาแล้ว และมีมติให้นำกลับมาทบทวน ตามที่วิปสปท.ได้เสนอความเห็นต่อกมธ.สื่อฯ 3 -4 ประเด็น ก่อนที่จะเสนอกลับมายังวิปสปท.อีกครั้ง ซึ่งจากการหารือกมธ.ด้านสื่อฯยังคงยืนยันความเห็นเดิมว่ากมธ.ได้มีการทบทวนแล้ว จึงมีมติให้นำเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพื่อให้สมาชิกได้แสดงความเห็นอย่างหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่การตอบโต้ไปมาระหว่างตัวแทนองค์กรสื่อกับกมธ.สื่อ ส่วนจะมีโอกาสที่ร่างกฎหมายดังกล่าว จะถูกตีกลับมาทบทวนอีกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมในวันที่ 1 พ.ค.
+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กล่าวถึง กรณีดังกล่าวที่มีเนื้อหาว่าให้สภาวิชาชีพสื่อสารมวลชน สามารถออกใบประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนว่าผู้ที่ผลักดันกฎหมายจะต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมถึงต้องมีการออกใบอนุญาต ทั้งนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นการครอบงำสื่อเพราะว่าในประเทศไทยก็มีใบอนุญาตมากมาย เหตุผลของการมีใบอนุญาตก็เพื่อดูว่าการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามหลักวิชาชีพหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้มีการมาตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ประกอบอาชีพนั้นโดยตลอด มาตรวจสอบอีกทีตอนที่ผู้ประกอบวิชาชีพ มาต่อใบอนุญาต ส่วนต้นสังกัดอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครไปดูไปตรวจสอบ ดังนั้นในรัฐธรรมนูญจึงเขียนว่าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรมีใบอนุญาต
+++การพิจารณาว่าจะรับเรื่องการค้ามนุษย์ที่จ.แม่ฮ่องสอน เป็นคดีพิเศษหรือไม่ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มารายงานว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่อธิบดีดีเอสไอ เซ็นคำสั่งแต่งตั้งชุดสืบสวน เพื่อทำงานคู่ขนานไปกับตำรวจด้วย ส่วนที่ผู้เสียหายมาขอเข้ากระบวนการคุ้มครองพยานจากกระทรวงยุติธรรม ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยได้รับความคุ้มครองพยานในคดียาเสพติด และได้ออกจากโปรแกรมการคุ้มครองพยานแล้ว ส่วนคดีนี้เป็นคดีค้ามนุษย์ จะมาขอเข้ารับการคุ้มครองพยานอีก กระทรวงยุติธรรมก็ไม่ขัดข้อง
+++ส่วนผู้ต้องหา3คนที่ถูกควบคุมตัวฝากขังศาลอาญาเมื่อเช้านี้ คือ น.ส.ปิยะวรรณ หรือเจ๊เมย์ สุขมา อายุ 26 ปี น.ส.ปิยทัสน์ หรือเจ๊ฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 30 ปี และ ด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ หรือ ดาบยุทธ อายุ 42 ปี สังกัด สภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน ศาล ได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้และไม่มีญาติของผู้ต้องหา มายื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวทั้งสาม เจ้าหน้าที่ นำตัว ด.ต.ยุทธชัย ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนผู้ต้องหาหญิงอีก 2 คน ส่งไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
+++การดูแลนักท่องเที่ยวสาวชาวบราซิล ถูกนายค้ำคูณเจริญ ค้อนจัตุรัส อายุ 44 ปี แท็กซี่ทำร้าย นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าได้เดินทางไปพบและแสดงความเสียใจและเก็บข้อมูลให้กองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยว เร่งดำเนินการช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยหลักเกณฑ์ของกองทุนดังกล่าว มีค่าฟื้นฟูสภาพจิตใจ 20,000 บาท ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ตั๋วเครื่องบิน ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งนักท่องเที่ยวมีกำลังใจดีมาก และยืนยันจะอยู่เที่ยวต่อ เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนผู้บริหารของกระทรวงการท่องเที่ยวที่ได้เล็งเห็นถึงปัญหา และได้สั่งการให้ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาในด้านต่างๆ นายพงษ์ภาณุ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำงานอย่างหนัก จนจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว และขอบคุณพลเมืองดีทุกคน ที่ให้ความช่วยเหลือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น เชื่อว่ากระบวนการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่กระทรวงจะทำได้ และการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
+++หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,566.77 จุด ลดลง 0.70 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,298.91 ล้านบาท แนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบๆ สอดคล้องกับหุ้นนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 10.00 จุด ปิดที่ 19,280.00 จุด
แฟ้มภาพ