การดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่และนายค้ำคูณเจริญ ค้อนจัตุรัส อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาแท็กซี่ทำร้ายร่างกายและข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวบราซิล ก่อนนำตัวไปทิ้งไว้กลางทุ่งใน จ.สุพรรณบุรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่ผู้ประกอบการไม่เข้มงวดและไม่ตรวจประวัติคนขับรถแท็กซี่ที่เคยก่อเหตุมาก่อนว่ารัฐบาลจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาหามาตรการในการป้องกัน เหมือนกับกรณีนี้ที่คนขับมีคดีติดตัวมาแล้วหลายคดี โดยจะเรียกประชุมหารือถึงแนวทางแก้ไข เช่น พิจารณาห้ามขับรถสาธารณะตลอดชีวิต
ขณะที่ กระทรวงคมนาคมกำลังสร้างภาพลักษณ์รถโดยสารสาธารณะอยู่ ซึ่งจะเรียกประชุมกับผู้ประกอบการทั้งหมดเพื่อขอความร่วมมือ โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะในสนามบิน เพราะจะต้องดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี แต่ในบางกรณีเชื่อว่าผู้ประกอบก็ทราบว่าคนขับพึ่งพ้นโทษมา แต่ต้องการให้คนขับมีโอกาส มีอาชีพ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสอบสวนสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก และกำลังรื้อฟื้นติดตามตัวผู้ที่เคยถูกออกหมายจับมากกว่า 50,000-60,000คดีทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ระยะหลังที่มีข่าวออกมาส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่พึ่งพ้นโทษกลับมาก่อเหตุอีก พลเอกประวิตร ระบุว่า ในเรื่องดังกล่าวกรมราชทัณฑ์มีการดูแล อบรมก่อพ้นโทษอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะทุกคนที่พ้นคดีมาก็ไม่ได้ก่อเหตุทั้งหมด หลายคนที่กลับตัวกลับใจ และเป็นที่ยอมรับ ขณะที่ ตำรวจมีมาตรการดูแลความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นกล้องซีซีทีวี ไฟส่องสว่างตอนกลางคืน ซึ่งยังไม่สามารถบังคับหรือกวดขันรถแท็กซี่ทั้งหมดได้ เพราะเป็นเรื่องของบุคคล ที่เห็นผิดเป็นชอบ จึงต้องเริ่มจากการปลูกฝังจริยธรรมให้ประชาชนมีจิตสำนึก ว่าไม่ให้ทำผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ