กรณีบริษัทเอกชนรายหนึ่งใน 5 ราย ที่ถูกกันไว้เป็นพยานในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตแรก ซึ่งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตพ่อค้าข้าว บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด กับพวก รวม 28 ราย เป็นจำเลย กลับคำให้การระหว่างการไต่สวนในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนเป็นเหตุให้พนักงานอัยการไม่นำตัวขึ้นสืบพยานในชั้นศาล พร้อมทำหนังสือให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพิกถอนเอกชนรายนี้ออกจากการเป็นพยาน แต่ในคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสอง ซึ่งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นางปราณี ศิริพันธุ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงป.ป.ช. มีมติกันเอกชนรายนี้ไว้เป็นพยานต่อนั้น ทาง ป.ป.ช. จะมีการตรวจสอบในประเด็นการกล่าวหาเอกชนรายนี้ใหม่อีกครั้ง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนมีนาคม 2560 และคาดว่าจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการส่งออกในไตรมาสแรกออกมาดี
กระทรวงการคลังจะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT) เบื้องต้นจะมีการพิจารณาให้มีรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลเข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัท ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้มีการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ด้าน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุ กระเทียมช่วงไตรมาส 1 ราคาดี เฉลี่ย 27 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากได้คุณภาพและมาตรการของศุลกากร ด้านหอมแดง พริกขี้หนูสวน และถั่วเขียว ราคาลดลง เนื่องจากผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ระดับราคาที่เกษตรกรขายได้ยังคงสูงกว่าต้นทุนการผลิต
ส่วนที่ประชุมร่วมระหว่างสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานด้านความมั่นคง มีมาตรการระงับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ไทยมีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายในเครือข่ายการนำส่งข้อมูลดิจิทัลขนาดใหญ่ (Content Delivery Network-CDN) หรือ ซีดีเอ็น ซึ่ง กสทช.ได้ตรวจหนังสือทั้งหมดจากกระทรวงดีอีที่แนบ คำสั่งศาลในการปิดเว็บไซต์ และถอดเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย จัดทำเป็นคำสั่ง กสทช. และนำสั่งให้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ หรือไอเอสพี ภายในวันนี้ โดยไอเอสพีต้องแยกเนื้อหาผิดกฎหมายออกจากระบบทั้งหมดภายในเวลา 7 วัน นับจากวันที่ได้รับคำสั่ง จากนั้น กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่าไอเอสพี ไม่กระทำตามคำสั่ง จะดำเนินการลงโทษ ตั้งแต่ ปรับ การระงับ และเพิกถอนใบอนุญาต
ในวันนี้ สำนักงานอัยการสูงสุด โดย เรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ จะร่วมแถลงข่าวคดี คดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง
ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. แถลงข่าวจับผู้ต้องหาหลอกลวงขายเพาเวอร์แบงค์และอุปกรณ์โทรศัพท์ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป1) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 ควบคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนคดีฆ่าปาดคอแท็กซี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน บริเวณกลางซอยนวมินทร์ 7 ถนนบางนาการ์เด้น ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จว.สมุทรปราการ ที่ สภ.บางบ่อ จว.สมุทรปราการ
ในวันนี้ ยังต้องติดตามคดีค้ามนุษย์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเมื่อวานนี้ ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และผู้เสียหาย 2 คน เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี และ 19 ปี ส่วนเรื่องที่มีความกังวลเกี่ยวกับการที่มีข้าราชการผู้ใหญ่ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ขอให้มั่นใจว่าทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับว่าไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลในพื้นที่ หากมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องดำเนินคดี และกล่าวด้วยว่า ปคม.จับมามากแล้วไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ตำรวจ พระ หรือข้าราชการสีอะไรก็จับ และเตรียมออกหมายจับขบวนการเพิ่มมากกว่า 1 คน
โดยคดีนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของการทำงานของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) และ จ.แม่ฮ่องสอน ที่จะดูคดีทั่วไป ขณะที่อีกส่วนหนึ่งคือทาง บก.ปคม.ที่ดูแลคดีเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งตั้งแต่มีการแจ้งความก็มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแฝงตัวในพื้นที่ ตำรวจจึงมั่นใจในเรื่องพยานหลักฐานเช่นกัน และมีการแจ้งข้อหาไปเพิ่มเติมแล้ว แต่ข้อหาหลักคือร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยกระทำกับเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยใช้การขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย และข้อหาพรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี
และยังติดตามคดีทำร้ายร่างกาย และข่มขืนหญิงชาวต่างชาติที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งคนร้ายเป็นคนขับรถแท็กซี่ที่มีประวัติการก่อคดีที่เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้งในคดีข่มขืน โดยปี 2551 ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวชาวไทย และปี 2556 ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวชาวพม่า หลังจากที่ก่อเหตุครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวไว้ได้ในทันที ถูกตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และโดยยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี
..