สำนักข่าวยอนฮับ ของเกาหลีใต้ รายงานว่าหน่วยทหารสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้เริ่มติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธล้ำสมัยหรือทาดในจุดที่ติดตั้งแห่งหนึ่งเมืองซองจู จังหวัดคย็องซังเหนือ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ในวันนี้ แม้ไม่มีการประกาศล่วงหน้า แต่ชาวบ้านหลายร้อยคนรวมตัวประท้วงหลังพบเหตุผิดสังเกต คือทหารสหรัฐฯ ส่งรถบรรทุกลำเลียงชิ้นส่วนระบบขีปนาวุธเข้าไปยังจุดที่จะมีการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธในสนามกอล์ฟร้างที่เลิกใช้แล้วแห่งหนึ่ง มีผู้ประท้วง บาดเจ็บ 10 คนระหว่างการปะทะกับตำรวจ สำหรับเมืองดังกล่าวเป็นเมืองที่เงียบสงบ มีชื่อเสียงในเรื่องการทำไร่แตงโม
ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธในพื้นที่ดังกล่าว จะทำให้พวกเขาเป็นเป้าการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ พวกเขาเขียนป้ายประท้วงว่าไม่ต้องการระบบต้านขีปนาวุธทาด,ไม่ต้องการสงคราม,สหรัฐฯ พวกคุณเป็นมิตรหรือกำลังส่งทหารเข้ามายึดครองเกาหลีใต้
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงว่ารัฐบาลสหรัฐฯคาดว่าการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว โดยได้รับความร่วมมือกับกองทัพเกาหลีใต้
กระทรวงป้องกันชาติของเกาหลีใต้ คาดว่า การติดตั้งจะแล้วเสร็จและเริ่มทดสอบระบบการใช้งานช่วงต้นเดือนหน้า แต่คาดว่าจะใช้งานจริงอย่างเต็มรูปแบบได้ในช่วงปลายปีนี้ การติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธครั้งนี้ มีขึ้นหลังหน่วยทหารสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ลงพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบจุดที่จะมีการติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้และสหรัฐฯได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธทาด บนคาบสมุทรเกาหลี เพื่อยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ประเทศจีน เพื่อนบ้านของเกาหลีใต้และหุ้นส่วนด้านการค้าอันดับต้นๆของเกาหลีใต้คัดค้านการที่สหรัฐฯเข้าไปติดตั้งระบบต้านขีปนาวุธบนคาบสมุทรเกาหลี หวั่นเกรงว่าเรดาร์ของระบบต้านขีปนาวุธนี้จะสอดส่องอาณาบริเวณไปไกลถึงประเทศจีน กระทบความมั่นคงแห่งชาติของประเทศจีน
บีบีซี เผยแพร่คลิปวีดีโอบรรยายว่าทหารจากกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯจัดให้มีการซ้อมรบร่วมโดยใช้กระสุนจริงในวันนี้ เป็นการฝึกซ้อมบูรณาการประสิทธิภาพการโจมตีข้าศึก โดยใช้เครื่องบินรบ,การยิงจรวดและยิงปืนใหญ่จากรถถังเพื่อโจมตีเป้าหมาย การซ้อมรบครั้งนี้จัดขึ้นห่างจากชายแดนของเกาหลีเหนือราว 15 ไมล์
ทีมต่างประเทศ
CR:english.yonhapnews.co.kr