แท็กซี่ ข่มขืนแหม่มบราซิลประวัติโชกโชน ขนส่ง ลงโทษหนักเจ้าของรถแท็กซี่ที่ให้เช่า

กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวบราซิลอดีตนางงามชาวบราซิล วัย 23 ปี ถูกแท็กซี่ข่มขืน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี  ผู้ต้องหาเป็นคนขับแท็กซี่ ได้รับผู้เสียหายจากสนามบินดอนเมือง ไปทองหล่อ 10 แต่ผู้ต้องหาได้พาออกนอกเส้นทางแล้วพยายามข่มขืน ผู้เสียหายได้หลบหนี แต่ก็ถูกทำร้าย และได้รับความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับตั้งแต่เมื่อวาน  และวันนี้ ตำรวจได้ติดตามตัวผู้ต้องหานายค้ำคูณเจริญ ค้อนจัตุรัส ได้ที่บ้านพักที่ จ.นนทบุรี และได้นำตัวไปทำแผนที่ จ.สุพรรณบุรี  เท่าที่รับรายงานทราบว่าผู้ต้องหา เคยก่อเหตุพฤติกรรมแบบนี้   ข้อมูลที่ได้มานั้นเหมือนกับที่ออกมาตามสื่อต่างๆ 

สำหรับ นายค้ำคูณเจริญ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรพบว่า เป็นบุคคลอันตรายมาก เนื่องจาก มีคดีข่มขืนติดตัวอยู่ถึง 2 คดี ซึ่งคดีแรกเกิดขึ้นเมื่อ 24 ก.ย.2551 ได้ขืนใจหญิงสาวชาวไทย อายุ 20 ปี ที่บริเวณริมถนน 340 (ตลิ่งชัน-สุพรรณ) ต.หน้าไม้ ท้องที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ส่วนคดีที่สองเกิดขึ้นเมื่อ 9 ม.ค.2556 ได้ขืนใจสาวชาวพม่า วัย 25 ปี บริเวณถนนกำแพงเพชร 6 พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง กระทั่งมาลงมือกับนักท่องเที่ยวรายนี้

สำหรับคำแนะนำเวลานั่งรถแท็กซี่  ต้องมีการถ่ายรูปไว้ก่อน แล้วแชร์ไปให้พ่อแม่เพื่อน ให้ทราบว่าตอนนี้อยู่บนรถแท็กซี่คันนี้ กำลังเดินทางไปที่ไหน จะได้ตามได้ และป้องกันไว้ก่อน สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย ได้ประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับเบอร์ติดต่อให้นักท่องเที่ยวเผื่อเวลามีปัญหา ตั้งแต่ที่สนามบิน ได้ขึ้นป้ายเบอร์ติดต่อไว้ รวมทั้งเกสเฮ้าส์ ก็มีเบอร์ติดต่อไว้ รวมทั้งมีคู่มือนักท่องเที่ยวด้วย ถ้านักท่องเที่ยวเที่ยวหลงทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ 191,1155

มีรายงานว่า กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ได้เรียกสหกรณ์แท็กซี่ ธนาสยาม จำกัด ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทย 4448 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายค้ำคูณเจริญ เป็นผู้เช่าขับ แล้วนำไปก่อเหตุข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวบราซิล โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.เวลาประมาณ 13.30 น.ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดย สหกรณ์แท็กซี่ ธนาสยาม ยอมรับว่า ได้ให้คนร้าย เช่าขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ และไม่ได้จัดส่งประวัติมายังศูนย์ประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าว ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 จึงได้ดำเนินการพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการใน 4 ข้อหา คือ เพิกถอนทะเบียนรถแท็กซี่คันหมายเลขทะเบียน ทย 444 8 กรุงเทพมหานคร /ระงับการเพิ่มรถเป็นเวลา 6 เดือน /เปรียบเทียบปรับสูงสุดฐานยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะเข้าขับแท็กซี่ เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และปรับฐานไม่จัดส่งประวัติผู้ขับขี่ให้นายทะเบียนอีก 1,000 บาท พร้อมส่งตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับคนขับแท็กซี่ผู้ก่อเหตุ กรมการขนส่งทางบกได้แจ้งข้อหาเพิ่มต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหาขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ 

แฟ้มภาพ