นายกฯ ชูนโยบายThailand Plus One จับมืออาเซียนดันไทยเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว

การเปิดการประชุมสุดยอดสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก World Travel and Tourism Council Global Summit 2017 (WTTC 2017) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน โดยมีผู้แทนระดับสูงในภาคธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว และหน่วยงานการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุมกว่า 1200 คน มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม ซึ่งถือว่าเป็นงานสำคัญที่สามารถเน้นย้ำศักยภาพของไทยในการจัดการประชุมระดับโลกและแสดงความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของเอเชียและของโลก 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกประจำปี 2560 หรือ World travel and tourism council global summit 2017 (WTTC) ซึ่งเป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก ที่สามารถเน้นย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการประชุมระดับโลก และแสดงถึงความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของเอเชียและของโลกต่อไป เนื่องจากทุกวันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ จึงต้องมีการพัฒนาโดยเฉพาะท่องเที่ยวที่ต้องเน้นคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณเพียงอย่างเดียว  ขณะเดียวกัน ต้องมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการคัดกรองเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรข้ามชาติด้วย

 

สำหรับประเทศไทย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2558 ที่เติบโตร้อยละ 16.7 สร้างรายได้ 1.45 ล้านล้านบาท และในปี 2559 แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่เอื้ออำนวยต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไทยยังสามารถขยายตัวได้ถึงร้อยละ 11 สร้างรายได้ 2.52 ล้านล้านบาท  ถือว่าเป็นสินค้าบริการที่สร้างรายได้สูงสุดของประเทศ และในปี 2560 นี้ รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวอาเซียน เพื่อฉลองการก่อตั้งอาเซียนครบรอบ 50 ปี โดยจับมือร่วมกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และคาดว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 121 ล้านคนและสามารถทำรายได้ให้แก่สมาชิกอาเซียน 29.9 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมุ่งสนับสนุนนโยบาย Thailand Plus One เพื่อดึงดูดการลงทุนใหม่จากนักลงทุนต่างประเทศให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในการเข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งด้านการค้า การขนส่ง และโลจิสติกส์ การคมนาคม การเคลื่อนย้ายแรงงาน และการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับให้ภูมิภาคนี้เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกัน

รัฐบาล จำเป็นต้องทำงานเพื่อประชาชนทั้งหมด จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อดทน หากรัฐบาลไม่ทำงานทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมและ เกิดความเสียหาย สิ่งสำคัญที่สุด คือความปลอดภัยของประชาชนและความมีเสถียรภาพด้านการเมือง หากไม่มีสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนตัวอยากให้ประชาชนคาดหวังกับเรื่องการท่องเที่ยวและการบริการ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งรัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์อยู่ในความสงบเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย

 

 

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี