3 ผู้ต้องหาคดีประเวณีเด็กแม่ฮ่องสอนปฎิเสธทุกข้อหา ตร.รุกคืบขรก.ซื้อบริการทางเพศ

หลังชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ควบคุมตัว ดาบตำรวจ ยุทธชัย ทองชาติ ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจภูธรน้ำเพียงดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช่วยราชการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ นางสาวปิยะวรรณ หรือ เมย์ สุขมา และ นางสาวปิยะทัสน์ หรือ ฟ้า เทียนสุวรรณ  ผู้ต้องหาฐานร่วมกัน เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี สมคบกันค้ามนุษย์เป็นธุระจัดหาค้าประเวณี มาพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสอบปากคำเพิ่มเติม และหลังจากนั้นได้ส่งมอบตัวให้กับ ปคม. ดำเนินการต่อ ดาบตำรวจยุทธชัย  กล่าวว่า ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะรวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดี ส่วนเมย์และฟ้า ตนรู้จัก ซึ่งก่อนถูกย้าย ตนทำงานในพื้นที่สถานีตำรวจภูธร น้ำเพียงดิน ได้ทำงานปราบปรามยาเสพติด จึงไม่รู้ว่ามีขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้งจากผู้อื่น

ส่วนรูปที่ปรากฏตามโชเชียลว่าเป็นคนจัดหาเด็กนั้น ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่อง คนอื่นเข้าไปเอารูปในเฟสบุ๊คของตน และวันที่ฟ้าถูกจับกุมฐานจัดหาเด็ก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ตนเป็นหนึ่งในชุดการจับกุมขบวนการดังกล่าว 

ส่วนการลงขันเพื่อจบคดีนี้ไม่เป็นความจริง และไม่รู้จักกับน้องผู้เสียหาย แต่รู้จักกับแม่ผู้เสียหาย เพราะเคยเป็นสายสืบให้ตำรวจ โดยตำรวจสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินภายในครอบครัวตนได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตูนจะต้องถูกตรวจสอบทรัพย์สินจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตนยืนยันที่มาที่ไปของทรัพย์สินได้

ขณะที่ นางสาวปิยะทัสน์ หรือ ฟ้า กล่าวว่า ตนเคยถูกดำเนินคดีอาญา ในข้อหาเดียวกันกับที่ถูกจับ เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2559 แต่ศาลรอลงอาญา 2 ปี ในอดีตเคยส่งเด็กให้ผู้ชายเที่ยวกลางคืน ตอนนั้นทำงานร้านอาหาร แต่หลังจากถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2559 ก็ขายของอยู่ที่บ้าน ไม่รู้จักตำรวจที่ซื้อบริการ ยืนยันไม่เคยชวนเด็กไปค้าประเวณี  ส่วนดาบตำรวจยุทธชัย ก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เพียงแต่รู้จักกันในตอนที่ดาบตำรวจยุทธชัย มาจับกุมเมื่อปี 2559 และไม่เคยจัดหาเด็กให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงไม่เคยรู้จักเด็กที่มีรอยสักรูปนกฮูกบริเวณหน้าอกด้วย

พลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับ และศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 3 รายตามคำร้อง แค่นี้ก็เป็นสิ่งยืนยันเบื้องต้นว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีความผิดจริง

ด้านพลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า คดีนี้เบื้องต้นมีเหยื่อ 3 ราย จากการสอบปากคำมารดาของหนึ่งในเหยื่อ 3 ราย ให้การอ้างว่าบุตรสาวให้ข้อมูล ว่าตัวเองและพวกถูกนำไปขายบริการให้กับข้าราชการ และชายทั่วไปหลายครั้งเฉพาะแค่กลุ่มที่เป็นข้าราชการมีที่จำชื่อได้ประมาณ 3-4 คน ที่จำชื่อไม่ได้ แต่จำตำแหน่งหน้าที่การงานได้ อีก 6-7คน รวมแล้ว มากกว่า 10 คน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มข้าราชการชาวต่างชาติด้วย แต่ข้อมูลที่ได้ในวันนี้ก็เป็นเพียงข้อมูลจากแม่ของเหยื่อที่ได้ฟังคำบอกเล่ามาเท่านั้น จากนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนของตนจะต้องไปสอบปากคำเด็กที่เป็นเหยื่อ เพื่อหาพยานหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มข้าราชการที่กล่าวอ้างซื้อประเวณีจากเด็กเหล่านี้จริง ทั้งวัน เวลา สถานที่ หากหลักฐานชัดเจนก็ต้องขออนุมัติหมายจับผู้ซื้อบริการทางเพศจากเด็กเหล่านี้ต่อไป