ป.ป.ช.ยกคดีธาริต เตือนใจ/ดำเนินคดีรักษาการผบ.เรือนจำ ร่วมทำร้ายพลทหารเบนซ์/มติสปท.ตักเตือนเรื่องป๋าอนุสร

+++กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แจ้งมติให้ผู้บังคับบัญชาของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติและถูกอายัดทรัพย์ โดยถูกพิจารณาโทษไล่ออก พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช.กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นตัวอย่างที่สามารถยกขึ้นมาป้องปรามในกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่สุจริต คณะกรรมการป.ป.ช.ไต่สวนและพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ซึ่งจะเห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่า เรื่องของนายธาริต น่าจะเป็นอุทาหรณ์เตือนคนที่เป็นข้าราชการที่ไม่สุจริต เพื่อให้ทำงานทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เดี๋ยวนี้สังคมตื่นรู้ มีการแจ้งเบาะแสกันได้มากขึ้น มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ป.ป.ช.มากขึ้น เราก็ต้องตรวจสอบไป ป.ป.ช.เองก็ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ให้มีความรวดเร็ว จะได้เป็นการป้องปราม

+++การประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า พล.อ.ประวิตร สรุปสถานการณ์ความมั่นคงกับสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจทั้งในและต่างประเทศ  ภาพรวมความมั่นคงในปัจจุบันเชื่อมกับทุกมิติในสังคม รวมถึงสถานการณ์โลกมีความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนในประเทศต้องร่วมกันสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ให้เกิดความสงบเรียบร้อย รัฐบาล พยายามวางรากฐานประเทศเพื่อให้ประชาชนเกิดความสงบสุข ประเทศไทย มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม รัฐบาลจึงต้องวางรากฐานประเทศ ด้วยการเร่งสร้างความสามัคคีปรองดอง ตามยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้ ซึ่งขณะนี้ คืบหน้ามาก โดยเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นและยึดประโยชน์ส่วนรวม

+++ความคืบหน้าการสร้างความสามัคคีปรองดอง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เตรียมหารือกับพรรคการเมือง นักวิชาการและภาคประชาสังคมเป็นกลุ่มย่อยตามแนวทางที่เสนอมา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนนี้ เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เสนอมาแล้วว่าเป็นไปตามที่เคยหารือกันหรือไม่ ส่วนในภูมิภาค จะเปิดเวทีพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ และรับฟังความเห็นอีกครั้ง โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มแต่ละภาค ซึ่งจะเสร็จสิ้นในต้นเดือนพฤษภาคม

+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ตามที่กองทัพเรือเสนอ เมื่อวันที่18 เม.ย.ว่า ครม.มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าวจริง โดยจัดซื้อเรือดำน้ำหยวนคลาส เอส 26 ที (Yuan Class S26T)จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท ยืนยันว่า ไม่มีอะไรเป็นลับลมคมใน ซึ่งการจัดซื้อเป็นงบผูกพัน ไม่ได้จ่ายเงินครั้งเดียว แต่จะทยอยจ่าย

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในที่ประชุมครม.ว่า มีความจำเป็นต้องจัดซื้อ เพราะเป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ ไม่ใช่อยากได้ตามประเทศอื่น แต่กองทัพเรือประเมินจากภัยคุกคามของประเทศที่มีอาณาเขตติดกับไทย และประเมินจากความมั่นคงทางท้องทะเล เพื่อป้องกันภัยคุกคามจึงต้องมีศักยภาพที่เหนือกว่า ประเทศเราอยู่ติดทะเล วันหน้าไม่มีสิ่งที่แน่นอน เราจึงต้องมีศักยภาพเพื่อป้องกันภัย และการสั่งซื้อไม่ใช่ว่าอนุมัติไปแล้วจะได้ภายใน 3- 5 วัน ต้องรอหลายปี  การจัดซื้อดังกล่าวเป็นการซื้อลำเดียว อย่างไรก็ตามที่โฆษกไม่ได้แถลงข่าว เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเอกสารลับที่สุดหรือมุมแดง และเป็นโหมดงานด้านความมั่นคง จึงไม่จำเป็นต้องแถลงข่าว

+++ด้านพล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ  กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพเรือ ยังไม่ทราบเรื่องว่าที่ประชุมครม.ได้มีความเห็นชอบเรื่องดังกล่าวแล้ว กองทัพเรือ จะไม่ก้าวล่วงมติครม. เพราะกองทัพเรือถือเป็นหน่วยปฏิบัติ

+++กรณีการเสียชีวิตของพลทหารยุทธกินันท์ หรือ เบนซ์ บุญเนียม อายุ 22 ปี ทหารกองประจำการ มณฑลทหารบกที่ 45 ถูกทำร้ายร่างกายขณะต้องโทษกักขังทางวินัยในเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45 ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา 10 ราย เป็นทหารประจำการ ที่ได้รับโทษอยู่ในเรือนจำ มทบ.45 จำนวน 3 ราย ทหารกองประจำการ 5 ราย ส่วนอีก 2 ราย เป็นทหารประจำการ ทำหน้าที่สิบเวรควบคุม 1 ราย และทหารกองประจำการทำหน้าที่ผู้ช่วยสิบเวร โดยทั้ง 10 ราย ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ล่าสุด พ.ต.กิตติศักดิ์ กาลเศรษณี นายทหารพระธรรมนูญ มทบ.45 พร้อมกำลังสารวัตรทหาร นำตัว ร.ท.ฐิติกานต์ เวชสิทธิ์ รองผบ.เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 45 รักษาการ ผบ.เรือนจำ  เข้าพบ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ

+++หลังจากที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ยกคำร้องหมายจับ แต่คณะพนักงานสอบสวน ได้ยื่นสำนวนเพื่อขออนุมัติหมายจับ ร.ท.ฐิติกานต์ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความความตาย แต่ให้ออกหมายเรียกแทน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ  ทั้งนี้ การสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 10 ราย ให้การซัดทอดว่าภายหลังที่พลทหารเบนซ์ถูกทำร้ายร่างกาย ร.ท.ฐิติกานต์ ไม่ได้มีการห้ามปรามหรือนำส่งโรงพยาบาล แต่กลับให้ผู้ช่วยสิบเวรนำตัวไปพบ โดยพยานอ้างว่า ร.ท.ฐิติกานต์ เป็นผู้ร่วมทำร้ายร่างกายด้วย

+++ความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ของเด็กหญิงในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยมีพลตำรวจตรีภาณุเดช บุญเรือง ช่วยราชการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 พันตำรวจเอกศตศักดิ์ พิมลทิพย์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน พันตำรวจเอกมานะ กลีบสัตบุศย์  รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) หัวหน้าชุดสืบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นตำรวจนายหนึ่งที่ปรากฏเป็นข่าว

+++กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีรองผู้กำกับรายหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ยืนยันถ้าพบก็ต้องดำเนินการ คาดว่า ในวันพรุ่งนี้มารดาผู้เสียหาย พร้อมทนายความ จะเดินทางมาพบพลตำรวจเอกศรีวราห์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำพยานหลักฐานมามอบให้เพิ่มเติมด้วย

+++ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่องนายอนุสร  จิรพงศ์ สมาชิกสปท. อาจมีการกระทำหรือพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและกรรมาธิการ พ.ศ. 2558  ประกอบข้อบังคับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2558  ข้อ102  กรณีที่ทำร้ายร่างกายพนักงานร้านอาหาร เนื่องจาก ไม่พอใจถูกเรียกว่า ป๋า ซึ่งเป็นการประชุมลับ ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง

+++ในที่ประชุมสปท. มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรก ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร นักกฎหมาย ทนายความ เห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ร้ายแรง เพราะถือว่านายอนุสร ไปเขกหัวใครก็ไม่เป็นไร เพราะจ่ายปรับไปแล้ว ก็ถือว่าคดีจบแล้ว ดังนั้นนายอนุสร ก็ไม่น่าจะมีความผิดอะไรอีก

+++ขณะนี้อีกกลุ่มมีความเห็นแย้งว่า ถึงแม้ว่าจะมีการจ่ายค่าปรับตามกฎหมายแล้ว แค่ สปท.คือผู้ที่มีเกียรติในการทำหน้าที่ จึงควรมีมาตรฐานจริยธรรมที่สูงกว่าคนทั่วไป เพราะถูกคัดเลือกมาแล้วก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน

+++เมื่อแสดงความเห็นเสร็จสิ้น ที่ประชุมลงมติ เป็น 4 มติ คือ 1.ฝ่าฝืน  ด้วยคะแนน 124 ต่อ 22 งดออกเสียง 22 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง มติที่  2. ร้ายแรง เห็นด้วย 54 ไม่เห็นด้วย 93 งดออกเสียง 14  มติที่ 3. ให้ประณาม  เห็นด้วย 29 ไม่เห็นด้วย 104 งดออกเสียง 17 ไม่ลงคะแนน 9 เสียง และ4.ตักเตือน  เห็นด้วย 107 ไม่เห็นด้วย 38 งดออกเสียง 14 ไม่ลง 2 คะแนน  จึงทำให้ที่ประชุมมีมติ เพียงแค่ ให้กล่าวตักเตือนนายอนุสร เท่านั้น

+++ผลกระทบการปรับเพิ่มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ขึ้นเป็น 12.52 สตางค์/หน่วย จากเดิม 3.3827 บาท/หน่วย เพิ่มเป็น 3.5079 บาท/หน่วย หรือค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3.70 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560 นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้า จะมีผลกระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าในหลายหมวด เช่น หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลม และน้ำส้มสายชู ของใช้ประจำวัน เช่น  แชมพูสระผม และผ้าอนามัย เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น และเตารีดไฟฟ้า หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง เช่น รถบรรทุกเล็ก และแบตเตอรี่ วัสดุก่อสร้าง อาทิ สังกะสี และปูนซีเมนต์ และหมวดปัจจัยทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี และจอบ แต่เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.0002-0.2660 ถือเป็นการเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น เป็นสาเหตุที่จะขอปรับเพิ่มราคาสินค้าต่อหน่วยงาน และหากขอปรับเพิ่มมาก็จะไม่อนุมัติให้ปรับขึ้น

+++กรมการค้าภายใน จะติดตามดูแลราคาสินค้าทุกสัปดาห์อย่างใกล้ชิด  จากการสำรวจราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ราคายังทรงตัว เช่น สินค้าหมวดอาหารสด ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาฟองละ 2.70-2.80 บาท ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ไก่สด กิโลกรัมละ 75-80 บาท เพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 5 บาท เนื่องจาก โรงงานหยุดผลิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่วนเนื้อหมูราคาเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน กิโลกรัมละ 10 บาท เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้หมูโตช้า

+++ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำมันปาล์ม บรรจุขวด 1 ลิตร ขวดละ 38-40 บาท ลดลงจากเดือนที่แล้ว 1-2 บาท สบู่ ยาสีฟัน และผงซักฟอก ราคายังคงเดิม ยกเว้นเพียงสินค้าหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเบนซิน ดีเซล และก๊าซหุงต้ม ราคาเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย ตามราคาในตลาดโลก

+++ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,564.66 จุด ลดลง 5.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,923.31 ล้านบาท นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า วันนี้ยังมีแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่เทขายหุ้นไทยติดต่อเป็นมาเป็น 5 วัน เพราะเงินทุนน่าจะไหลกลับไปยังสหรัฐฯและยุโรป เนื่องจากที่สหรัฐฯกำลังจะพิจารณามาตรการทางด้านปฏิรูปภาษีจากที่ก่อนหน้านี้มีความล่าช้ามา ขณะที่ยุโรปจะมีการเลือกตั้งฝรั่งเศส ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานหรือปัจจัยเด่นต่อตลาดหุ้นไทย กลยุทธ์หลักตอนนี้ให้นักลงทุนได้รอดูและประเมินสถานการณ์ก่อน (Wait and See)

+++ฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 97.46 จุด ปิดที่ 24,139.48 จุด ส่วนนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 255.13 จุด 18,875.88 จุด

+++นางสาวสมลิ้ม บัวบุศย์ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 1 ต.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางให้ปากคำเพิ่มเติมหลังเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ต.บุญเลิศ เชิดบารมี รองสว.สอบสวน สภ.ปากท่า อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา กรณีถูกคนร้ายทำทีเป็นกลุ่มนายหน้ามาหาซื้อที่ดินแล้วหลอกขอยืมเงินเพื่อไปซื้อที่ดินอีกแปลงเอากำไรมาแบ่งให้ จนหลงเชื่อไปถอนเงินสดจากธนาคาร กว่า 400,000 บาท ให้ยืมไปก่อนหนีหาย  นางสาวสมลิ้ม กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายเป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน เข้ามาสอบถามหาซื้อที่ดินในหมู่บ้านในวันที่มีการมอบเงินผู้สูงอายุ ถัดมาอีกวันกลุ่มคนร้ายได้ขับรถเก๋งมาหาที่บ้าน ทำทีถามหาคนบอกว่าอยู่ใกล้วัดทองและไปไม่ถูกจึงนั่งรถพาไป ระหว่างทางคนร้ายจะพูดคุยสอบถามต่างๆ นานา จนไปพบกับชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถกระบะที่จอดอยู่ใกล้กับที่นา แล้วก็จอดรถลงไปคุยกันเรื่องซื้อที่ดิน โดยบอกว่ารีบขายถูกเพราะร้อนเงิน แต่ติดตรงที่ว่าโฉนดเอาไปจำนองไว้ 5 แสนบาท แต่กลุ่มคนร้าย ได้นำเงินออกมานับพบว่ามีเงินเพียง 1 แสนบาท ขณะเดียวกัน ก็โทรศัพท์คุยกับชายอีกคนบอกว่าให้ราคาที่ดินสูงกว่าจะมีกำไรมาก คนร้ายจึงได้หันสอบถามขอยืมเงินตน โดยบอกว่าหากขายที่ได้แล้วจะแบ่งกำไรให้ร้อยละ 10 จึงหลงเชื่อพาไปเบิกเงินจากธนาคาร 400,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้พามาส่งที่บ้าน บอกจะไปทำสัญญาแล้วนำเงินมาคืนให้ ก็รอจนผ่านไป 2 วัน ไม่เห็นมีคนติดต่อมาจึงรู้ว่าถูกหลอกแน่จึงเข้าแจ้งความ รู้สึกเสียดายเงินมาก เงินทั้งหมดเก็บมาทั้งชีวิต ทำสวนทำนาแบ่งให้เช่าที่ดิน กลับมาถูกหลอกไปจนหมดตัว

+++พ.ต.ท.ขวัญชัย เผือกพูนผล รองผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำภาพถ่ายพร้อมประวัติกลุ่มคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาให้ผู้เสียหายดู คดีนี้ผู้เสียหายจำคนร้ายได้บางส่วน อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

แฟ้มภาพ