สบส. ตรวจมาตรฐานศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที พบว่าชาวเวียดนาม-ชาวจีน นำน้ำเชื้ออสุจิมาเก็บไว้ ไม่เกี่ยวข้องกับคดี

การขยายผลตรวจสอบคลินิก หลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายนิธินนทน์ ศรีธานิยานันท์ ได้ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย ขณะกำลังขนอสุจิบรรจุใส่ถังไนโตรเจน เพื่อเตรียมส่งไปยังคลินิคในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยหลังจากที่ นพ.ธงชัย กิรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ลงพื้นที่ตรวจศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากเจตนินแล้ว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ซึ่งเป็น 1 ใน 4 คลินิคที่นายนิธินนทน์ อ้างว่ารับอสุจิมาเพื่อจะส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว นายแพทย์ธงชัย ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าคนไข้ชาวเวียดนามและชาวจีน ได้เดินทางมาเก็บเชื้ออสุจิไว้ที่นี่จริง และได้ทำเรื่องขอเบิกออกไปตามที่ศูนย์ได้ให้ข่าวไว้ก่อนหน้านี้ โดยได้นำอสุจิออกไป คนละ 3 หลอด ดังนั้น เชื้ออสุจิที่บรรจุในถังไนโตรเจนจำนวน 6 หลอด จึงเป็นของศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ส่วนที่เจตนิน  น่าจะเป็นศูนย์ที่คนไข้ใช้ตรวจเลือด ส่วนอีก 2คลินิคที่มีการอ้างถึงคาดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ แต่อาจเป็นคลินิคที่นายนิธินนท์ เคยใช้ขนอสุจิในกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ส่วนขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ขั้นตอนการตรวจ การเก็บ และการเบิกอสุจิของที่นี่ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ พร้อมหาหลักฐานมาประกอบ เพื่อดูข้อมูลการเบิกเชื้ออสุจิทั้ง 6 หลอด อย่างไรก็ตามการเบิกเชื้ออสุจิ ถึง 3 หลอดต่อ 1 คน ถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณอสุจิของแต่ละคน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตรวจสอบ ส่วนการมอบอำนาจเบิกอสุจิ นพ.ธงชัย กล่าวว่า สามารถทำได้ในกรณีคนไข้ เซ็นให้ผู้อื่นมารับแทน แต่คนไข้จะต้องเป็นผู้มายืนยันด้วยตัวเอง ว่ามีความประสงค์ต้องการนำเชื้ออสุจิคืน

ด้านนายศรายุธ อัสสมกร กรรมการผู้จัดการศูนย์ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที ยืนยันว่า คนไข้ทั้ง 2 ราย คือ ชาวเวียดนามและชาวจีนได้นำน้ำเชื้ออสุจิมาเก็บไว้ที่นี่จริง หลังเข้ารับการตรวจเลือดที่เจตนินคลินิค โดยได้มีการเข้ารับการรักษาและเบิกออกไปคนละวัน ซึ่งคนไข้เป็นผู้เซ็นขอย้ายเชื้ออสุจิด้วยตัวเอง แต่ได้มอบอำนาจให้ผู้อื่นมารับแทนโดยเป็นคนไทย แต่ไม่ใช่นายนิธินนท์ โดยการมารับเชื้ออสุจิ ทั้ง 6 หลอด เป็นบุคคลเดียวกัน คาดว่า อาจจะเป็นบริษัทขนส่ง ที่เป็นตัวแทนมารับ เพราะการเบิกของทั้ง 2คน เป็นคนละวัน พร้อมปฏิเสธว่าไม่เคยร่วมลงทุนหรือเข้ารับการอบรมกับคลินิคจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีเพียงการประชุมร่วมกันกับประเทศอื่นๆ หลายๆประเทศเท่านั้น และไม่มีการแลกเปลี่ยนทีมแพทย์อย่างแน่นอน ยืนยันว่าทุกครั้งที่คนไข้จะเบิกน้ำเชื้อออกไปทางศูนย์จะมีเอกสารชี้แจง ห้ามนำออกประเทศ และคนไข้ต้องระบุในสถานที่ที่จะย้ายไปไว้ในเอกสารด้วย

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม