มาคร็องและเลอเปนเข้ารอบ2เลือกตั้งปธน.ฝรั่งเศส/ เกาหลีเหนือขู่โจมตีเรือรบสหรัฐ

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก ปรากฏว่า นายเอมมานูเอล มาคร็อง อายุ 39 ปีผู้สมัครอิสระที่มีแนวทางสายกลาง ได้รับคะแนนมากเป็นอันดับ 1 คือประมาณร้อยละ 23-24 ขณะที่นางมารีน เลอ เปน อายุ 48 ปี ผู้นำของพรรคขวาจัด ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนนประมาณร้อยละ 21-23 ซึ่งทำให้ต้องมีการลงคะแนนรอบที่สองตามความคาดหมาย และพรรคการเมืองหลายพรรคประกาศสนับสนุนนายมาคร็อง ที่ทำให้เขาได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศสในช่วงประวัติศาสตร์ยุคใหม่ โดยในการแถลงนายมาคร็องกล่าวว่าเป็นเพราะชาวฝรั่งเศสต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากนายฟรองซัวส์ ฟิญง ผู้สมัครของพรรครีพับลิกันที่เป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยม กำลังตกเป็นข่าวอื้อฉาว ส่วนนายเบอนัวต์ อามง ตัวแทนของพรรคโซเชียลิสต์ ต่างก็มีคะแนนไม่เพียงพอที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งในรอบที่ 2 ซึ่งหมายความว่าไม่มีพรรคการเมืองกระแสหลักที่เข้าถึงรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบระยะเวลา 60 ปี

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในครั้งนี้ ดำเนินไปท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดท่ามกลางสถานการณ์เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้ง

เกาหลีเหนือประกาศว่า พร้อมที่จะจมเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ขณะที่กองทัพญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ร่วมซ้อมรบในเขตน่านน้ำทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ และ สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือจับกุมพลเมืองชาวอเมริกันอีก 1 คนและเป็นคนที่ 3 แล้วที่ถูกควบคุมตัวไว้ในเกาหลีเหนือ

ทางการออสเตรเลียเรียกร้องให้เกาหลีเหนือนำงบประมาณไปใช้ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน แทนที่จะนำไปใช้ในโครงการพัฒนาแสนยานุภาพนิวเคลียร์

ขณะที่ทางการนิวซีแลนด์ประณามเกาหลีเหนือว่ามีเจตนาที่ชั่วร้าย ภายหลังโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือขู่ว่าหากออสเตรเลียดำเนินนโยบายกีดกันเกาหลีเหนือก็ควรคิดถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะตามมา เพราะเกาหลีเหนืออาจตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีออสเตรเลีย

ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกประกาศคำแนะนำให้ประชาชนปฏิบัติตามหากมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธ พร้อมจะใช้ระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่เรียกว่าเจ-อเลิร์ท เพื่อส่งข้อความเตือนทั้งผ่านเครื่องขยายเสียงและผ่านโทรศัพท์มือถือ เพราะแม้ว่าญี่ปุ่นจะมีระบบป้องกันขีปนาวุธ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มั่นใจว่าจะปลอดภัย

ประธานาธิบดี อัชราฟ กานี แห่งอัฟกานิสถาน ประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศ และให้ลดธงครึ่งเสา เพื่อไว้อาลัยให้กับเจ้าหน้าที่ทหารมากกว่า 140 นายที่เสียชีวิตจากเหตุกลุ่มก่อการร้ายบุกโจมตี กองทัพน้อยที่ 209 ในเมืองมาซาร์ อี ชารีฟ  ซึ่งในเวลาเดียวกัน ยังมีชาวอัฟกันร่วมชุมนุมเรียกร้องให้นายอับดุลเลาะห์ ฮาบีบี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการค่ายทหารที่เกิดเหตุลาออกจากตำแหน่งเพื่อชดใช้ความ ล้มเหลวที่เกิดขึ้น

ส่วนกองทัพอิสราเอลโจมตีค่ายทหารของกองทัพซีเรีย อัล ฟาววาร์ ใกล้กับที่ราบสูงโกลัน และใกล้เมืองกูไนตรา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้มีทหารเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งกองทัพอิสราเอล ระบุว่าเป็นการตอบโต้ที่กองทัพซีเรียบุกโจมตีก่อน

นายเดลฟิน ลอเรนซานา รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ เดินทางเยือนเกาะปักอาซา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฟิลิปปินส์อ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ต้องการให้พัฒนาเกาะแห่งนี้กับอีก 8 เกาะใกล้เคียง รวมถึงแนวปะการัง ในหมู่เกาะสแปรตลี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.9 บริเวณภาคกลางของประเทศชิลี ในทวีปอเมริกาใต้ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริการะบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองบัลปาราอีโซไปทางทิศตะวันตกราว 42 กิโลเมตร อยู่ลึกไปใต้ทะเล 9.8 ก.ม. วัดได้เมื่อเวลา 23.36 น.

นิตยสารแดร์ ชปีเกล ของเยอรมนี รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลเยอรมนีหรือบีเอ็นดี สอดแนมองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โปล ผ่านการสื่อสารผ่านอีเมล โทรศัพท์ และโทรสาร ของเจ้าหน้าที่สืบสวนใน 190 ประเทศ นอกจากนี้ยังสอดแนมหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ออสเตรีย และกรีซ รวมถึงองค์กรตำรวจยุโรปด้วย

สมาชิก 189 ประเทศของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ร่วมประชุมสามัญประจำปีที่กรุงวอชิงตันสหรัฐ เพื่อหามาตรการรับมือกระแสต่อต้านโลกาภิวัตน์ โดยเรียกร้องให้ชาติสมาชิกหลีกเลี่ยงที่จะใช้นโยบายที่มุ่งเน้นเพียงประโยชน์ส่วนตน

บริษัทดิจิทัล อแวร์เนสส์ ยูเค สำรวจความเห็นกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนที่มีอายุระหว่าง 11-18 ปี ซึ่งพบว่า เด็กและวัยรุ่นกลุ่มนี้มองว่า การที่พ่อแม่เล่นโทรศัพท์มือถือเป็นผลเสียต่อชีวิตครอบครัวที่ดี โดยร้อยละ 82 มองว่าช่วงเวลารับประทานอาหารร่วมกันไม่ควรเล่นมือถือ ส่วนร้อยละ 22 มองว่าเวลาอยู่ด้วยกันไม่ควรใช้ และอีกร้อยละ 36 เคยขอให้พ่อแม่วางมือถือก่อน ซึ่งในจำนวนที่ขอให้พ่อแม่วางมือถือ ปรากฏว่าร้อยละ 46 พ่อแม่ไม่สนใจ แต่เมื่อสอบถามพ่อแม่จำนวน 3,000 คน กลับพบว่าร้อยละ 95 โต้เถียงว่าไม่เคยหยิบมือถือมาใช้ตอนอยู่กับลูก

...