ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชูนโยบายปกป้องฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุคนร้ายยิงตำรวจกลางกรุงปารีส

ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายชักปืนยิงตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย ที่ถนนฌ็องเซลิเซ กลางกรุงปารีส นครหลวงของฝรั่งเศส ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ได้ชูนโยบายปกป้องฝรั่งเศสเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ท่ามกลางความกังวลของเจ้าหน้าที่ว่าจะมีเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นอีกในระหว่างการเลือกตั้ง โดยนางมาครีน เลอ เป็น ผู้นำพรรคขวาจัด วัย 48 ปี รีบนำเสนอตัวเองว่าเป็นผู้ต่อต้านกลุ่มมุสลิมนิยมแนวทางรุนแรง โดยชูนโยบายควบคุมชายแดนและขับไล่ชาวต่างชาติที่มีชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายออกจากประเทศทั้งหมด ทั้งยังโจมตีรัฐบาลสังคมนิยมของฝรั่งเศสว่า ขี้ขลาดในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว ขณะที่นายฟร็องซัวส์ ฟิยง ผู้สมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยม วัย 63 ปี ให้คำมั่นว่า จะใช้วิธีการแข็งกร้าวจัดการ ส่วนนายเอ็มมานูเอล มาครง นักการเมืองสายกลาง วัย 39 ปี กล่าวว่า จะไม่ยอมจำนนต่อความหวาดกลัว

ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นของชาวฝรั่งเศสล่าสุด นางเลอ เป็น และนายมาครงมีคะแนนเท่ากันร้อยละ 23 นำหน้านายฌ็อง-ลุค เมล็องชง นักการเมืองปีกซ้าย ซึ่งได้คะแนนนิยมร้อยละ 19.5 ขณะที่นายฟิยงได้ร้อยละ 19 สำหรับเหตุอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า คนร้ายเคยมีประวัติก่อคดีอาชญากรรมอย่างโชกโชก ขณะที่กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ออกมาอ้างความรับผิดชอบ นับเป็นเหตุโจมตีสะเทือนขวัญล่าสุดที่เกิดขึ้นกับฝรั่งเศส ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสตกเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อการร้ายอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 239 คน

ทีมต่างประเทศ

CR: sbs.com.