เลขาป.ป.ส.เตือนอย่าแอบอ้างเป็นจนท.ดำเนินคดีทุกราย ล่าสุดศาลตัดสินแล้วที่จ.สระบุรี

22 เมษายน 2560, 10:11น.


นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส)  ชี้แจงถึง กรณีที่เป็นข่าวผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์  ทั้งในส่วนที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เข้าตรวจปัสสาวะและเข้าค้นบ้านผู้เสียหาย และในส่วนที่แอบอ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่อาการเมาสุราและจะขอตรวจปัสสาวะผู้เสียหาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว และขอให้เป็นตัวอย่างแก่สังคมในการกระทำความผิดที่ต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายต่อไป



กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (เฟสบุ๊ค) กรณีแรก ชายสองคนยืนโต้เถียงกันหน้าห้องพักในอาคารแห่งหนึ่ง โดยชายคนหนึ่งได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและตรวจค้นเคหะสถาน ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2560 เลขาธิการ ป.ป.ส. สั่งการให้ สำนักงาน ปปส.ภ.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ คือ จังหวัดสระบุรี เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าสถานที่เกิดเหตุ คือ อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เลขที่ 24/1 หมู่ 7  ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมืองสระบุรี จ.สระบุรี และผู้ที่แสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตามที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ คือ นายวิเชียร พันธุ์สมบูรณ์ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า นายวิเชียร พันธุ์สมบูรณ์ ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.  การกระทำของนายวิเชียร เป็นความผิดฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิเชียร และได้นำตัวส่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสระบุรี โดยศาลแขวงสระบุรี ได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน และปรับ 2,000 บาท





กรณีที่สอง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2560 ตามที่ข่าวสารปรากฏตามเว็บไซต์ โดยมีชายคนหนึ่งไปหาเพื่อนที่มีบ้านเช่าหลังติดกับบ้านของผู้เสียหาย ณ บ้านเลขที่ 109 ถนนประดิษฐ์ ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยชายดังกล่าวมีอาการเมาสุรา และได้พูดจาก่อกวนประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นจนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ตร.ปส.ภาค 4 ขอตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแก่ผู้เสียหาย ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุและแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายจักรกริช พรหมอารักษ์ พักอยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 9 ตำบลลำปาว อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการดำเนินคดี เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำว่า จากกรณีทั้ง 2 คดี เป็นการแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท ถือเป็นตัวอย่างในการกระทำความผิดที่ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพื่อให้สังคมรับรู้และเชื่อมั่นในทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐต่อการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชน ดังนั้น หากพบผู้มีพฤติการณ์ดังกล่าว หรือน่าสงสัยว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งมายังสายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีเพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน



CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส. 

ข่าวทั้งหมด

X