ประติมากรชำนาญการพิเศษ เผยงานประติมากรรม ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คืบหน้ากว่าร้อยละ60

การดำเนินงานด้านประติมากรรม ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณสำนักช่างสิบหมู่จังหวัดนครปฐม นายประสพสุข รัตน์ใหม่ ประติมากรชำนาญการพิเศษ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ในฐานะผู้ดูแลงานประติมากรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้งานด้านประติมากรรม มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 60 โดยมีหลายชิ้นงานที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว เช่น พระพรหม พระนารายณ์ ช้าง ม้า โค สิงห์ เป็นสัตว์มงคลประจำทิศ  และในบางส่วนอยู่ในช่วงฉลองพระองค์และประดับลวดลาย ซึ่งภายในสำนักช่างสิบหมู่แห่งนี้ มีงานปั้นทั้งสิ้น 25 ชิ้นงาน อาศัยความร่วมมือจากช่างสิบหมู่และจิตอาสาร่วม 50 คน  ใช้ระยะเวลาปั้น  2-3 เดือนต่อหนึ่งตัว ขึ้นอยู่กับผู้ปั้นที่จะมีความต่อเนื่องมากน้อยเพียงใด และขึ้นอยู่กับการแก้ไขของงาน

ทั้งนี้ ในส่วนสัตว์มงคลประจำทิศ ที่จะใช้ประดับทางขึ้นลงบันไดพระเมรุมาศ ทิศละ 1 คู่จำนวน 8 ตัว ช้างจะอยู่ประจำทิศเหนือมีความหมายถึงสัตว์ที่พระนางเจ้าสิริมหามายาทรงสุบินนิมิตเห็น ม้าประจำทิศตะวันตกหมายถึงการเสด็จออกบวช ของพระพุทธเจ้า โคประจำทิศใต้ หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ และสิงห์ประจำทิศตะวันออก หมายถึงการแสดงธรรม ซึ่งทุกตัวจะมีความสูง 180 เซนติเมตร นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่สำนักช่างสิบหมู่ ได้ทำงานร่วมกับช่างจากจังหวัดเพชรบูรณ์และนักศึกษาจาก วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ทำหน้าที่ปั้นช้าง 10 ตระกูล ม้าโคสิงห์ รวมทั้งสัตว์ผสมเพื่อให้เกิดความหลากหลายขึ้น

นอกจากนี้ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ยังมีความพิเศษของมหาเทพทั้ง 4 องค์ ได้แก่พระพรหม พระนารายณ์ พระศิวะและพระอินทร์ ที่จะเน้นความร่วมสมัย มีการปั้นให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์ สังเกตได้จาก กล้ามเนื้อและบริเวณช่วงแขน อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้อากาศค่อนข้างร้อน จึงถือเป็นปัญหาอุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำงาน โดยอากาศที่ร้อนจะทำให้ดินเหนียวที่ใช้ในการปั้นแห้งและหลุดได้ง่าย เจ้าหน้าที่จึงต้องคอยพรมน้ำ ในตัวรูปปั้น อย่างสม่ำเสมอรวมทั้ง ต้องนำผ้าเปียกมาคลุมไว้ ในกรณีที่หยุดทำหรือหยุดพัก เพื่อรักษาความชื้นให้รูปปั้นคงสภาพไว้อย่างเดิม

นายประสพสุข ยังได้เล่าถึงความรู้สึกของการมีส่วนร่วมในงานพระราชพิธีที่สำคัญครั้งนี้ว่า ถือเป็นมงคลกับผู้ร่วมงาน ที่จะทำเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในวาระสุดท้าย และยินดีที่จะทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย รวมทั้งให้มีความงดงามสมพระเกียรติมากที่สุด

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม