การกำหนดมาตรการให้ประชาชนนั่งแค็บและท้ายกระบะ หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยังอนุญาตให้สามารถนั่งแค็บและท้ายกระบะได้ อย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เนื่องจากประชาชนมีวิถีชีวิต การประกอบอาชีพและใช้ประโยชน์จากรถกระบะที่หลากหลาย ทั้งนี้ในวันที่ 21 เม.ย. จะมีการหารืออีกครั้ง เพื่อกำหนดมาตรการให้มีความปลอดภัย ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอแนวทาง 3 ข้อ ประกอบด้วย ที่นั่งแค็บรุ่นที่กว้างเพียงพอ ให้ติดตั้งเข็มขัดนิรภัย 2 หรือ 3 จุด จึงสามารถนั่งโดยสารได้ สำหรับท้ายกระบะ หากจำเป็นต้องบรรทุกคน ให้บรรทุกได้ไม่เกิน 6 คน และติดตั้งราวจับยึด หรือเข็มขัดนิรภัยเท่าที่ทำได้ รวมทั้งรถกระบะที่บรรทุกคนให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นายสนิท กล่าวว่า ได้นำข้อคิดเห็นมาพิจารณาบางข้อเสนอสามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเพิ่มเติม จะทำให้เป็นภาระและประชาชนได้รับผลกระทบ จะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรณีการปรับปรุงเบาะรถตู้โดยสาธารณะจาก 14 ที่นั่ง เหลือ 13 ที่นั่ง ขณะนี้ผู้ประกอบรถตู้สามารถถอดหรือปรับเบาะให้ลดลงไปก่อนได้ แต่จะต้องบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 13 คน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ 500 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องถอดเบาะที่นั่งรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งในเส้นทางกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 5 พ.ค. นี้
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม
CR:ภาพฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมการขนส่งทางบก