ขนส่ง สรุปปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์ 4ล้าน8แสนคน อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น แต่ความรุนแรงน้อยลง

ผลการดำเนินการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ในวันนี้กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลดำเนินงาน โดยนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ มีทั้งสิ้น 20 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 1ครั้ง ซึ่งมีรถโดยสารสาธารณะเป็นต้นเหตุ 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บที่มากับรถโดยสารสาธารณะ 5 คน

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ไม่มีผู้โดยสารที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ และไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิตในการเดินทางทั้งไปกลับกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดทุกเส้นทาง แต่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย กรณีที่รถจักรยานยนต์ ชนกับรถโดยสารสาธารณะ ที่เป็นคู่กรณี เนื่องจากคนขับรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค ซึ่งจากสถิติ แสดงให้เห็นว่าอุบัติเหตุยังคงเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ที่มีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก แต่ความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลง ซึ่งมาจากมาตรการเข้มข้น การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง

พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัท รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยตัวเลข ประชาชนผู้ใช้บริการรถ บขส. และรถตู้สาธารณะ ที่วิ่งต่างจังหวัด ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน โดยได้มีรถให้บริการประชาชนทั้งสิ้น 115,000 เที่ยว มีประชาชนใช้บริการในช่วงขาออก จำนวน 2,400,000 คน ประกอบด้วย ใช้บริการรถตู้สาธารณะ  1,100,000 คน และใช้บริการรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ 1,300,000 คน ส่วนขาเข้าที่ประชาชนเดินทางกลับจากต่างจังหวัด มีประชาชนใช้บริการรถ บสข. และรถตู้สาธารณะ กว่า 2,000,000 คน โดยพบว่าวันที่ประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มากที่สุด คือวันที่ 16 เม.ย. มีประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่า 190,000 คน

ทั้งนี้ ยอดรวมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีประชาชนเดินทางเข้าและออกกรุงเทพฯ ประมาณ 4,800,000 คน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจัดสรรปริมาณรถเพื่อรองรับประชาชนได้เพียงพอ นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสภาพรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งเพิ่มมาตรการยกระดับความปลอดภัย จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า รถตู้โดยสารสาธารณะที่มีกำหนดติด GPS ขณะนี้สามารถติดได้ครบทุกคันแล้ว ส่วนการลดจำนวนที่นั่งรถตู้สาธารณะ จาก 14 เหลือ 13 ที่นั่ง เพื่อให้สามารถเปิดประตูรถจากด้านในท้ายรถตู้ ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้ว โดยได้กำกับดูแลรถตู้ทุกคันก่อนออกจากสถานี และระหว่างการเดินทาง เพื่อให้บรรทุกผู้โดยสารตามจำนวนที่กำหนด

ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม

CR:ภาพฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมการขนส่งทางบก