หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติปรับหลักเกณฑ์โครงการบ้านประชารัฐและโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ โดยหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการทั้ง2 เมื่อปี 2559 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิ์ไม่เต็มวงเงินตามที่รัฐกำหนดไว้ โดยเมื่อกระทรวงการคลังได้นำปัญหามาทบทวนพบว่า หลักเกณฑ์ที่รัฐบาลได้ตั้งไว้มีเงื่อนไขที่เข้มงวดเกินไป จึงได้มีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ ประกอบด้วย คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าโครงการบ้านประชารัฐจากเดิมกำหนดให้ผู้ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย สามารถเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนเป็น ผู้ที่ปัจจุบันไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย สามารถเข้าร่วมโครงการ เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ที่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย แต่ปัจจุบันไม่มีกรรมสิทธิ์แล้ว มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ และปรับเงื่อนไขวงเงิน จากเดิมกำหนด ให้ผู้เข้าร่วมโครงการ มีวงเงินรายละไม่เกิน 1,500,000 บาท รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีการยกเลิกราคาประมูลที่ดินในการพิจารณา ซึ่งวงเงิน 1,500,000 บาท จะกำหนดให้เป็นวงเงินเฉพาะในการปลูกที่อยู่อาศัยและซ่อมแซมบ้านเท่านั้น ส่วนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ที่เป็นโครงการเช่าระยะสั้นให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมีที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ในอดีตได้กำหนดผู้เช่าจะต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน และมีรายได้ไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท โดยการปรับหลักเกณฑ์ใหม่กำหนด ผู้เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยสามารถเข้าโครงการได้ แต่ยังคงรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ยังมีมติขยายระยะเวลาต่ออายุมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โดยมีการต่ออายุออกไปอีก 3 ปี ให้กับวิสาหกิจชุมชนเมืองจำนวน 70,000 แห่ง ในการผลิตสินค้าการให้บริการแต่ละชุมชนเพื่อส่งเสริมรายได้และพัฒนาชุมชน ทั้งนี้มีการกำหนดเงื่อนไขให้วิสาหกิจชุมชน จัดทำบัญชีรายงานแสดงรายได้รายจ่าย ประจำวัน พร้อมยื่นแบบภาษีเงินได้ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป
ด้านนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต โดยอนุมัติให้สร้างโครงการดังกล่าว ในวงเงิน2,076 ล้านบาท ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน ทั้งนี้ศูนย์นวัตกรรมแห่งอนาคต ประกอบด้วย นิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการแนะนำอาชีพด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน รวมทั้งเปิดประสบการณ์ให้เยาวชนได้ลงมือปฏิบัติในอาชีพต่างๆ 27 อาชีพ ตามที่สนใจ โดยจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 39 เดือน ใช้พื้นที่บริเวณเทคโนธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี