กลุ่มแฮคเกอร์ ซึ่งเรียกตัวเองว่า “เดอะ แชโดว์ โบรกเกอร์” ได้เผยแพร่เอกสารและไฟล์ข้อมูล ซึ่งชี้ให้เห็นว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NSA ได้เจาะระบบการโอนเงินระหว่างธนาคารที่เรียกว่าระบบ “สวิฟต์ (SWIFT)” เพื่อจับตาดูการหลั่งไหลของเงินตราในธนาคารและสถาบันการเงินของตะวันออกกลางและลาตินอเมริกา อาทิ คูเวต ดูไบ บาห์เรน จอร์แดน เยเมน และกาตาร์ ซึ่งนายเชน ชุค ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยด้านคอมพิวเตอร์ หรือ ไซเบอร์ ระบุว่า การเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวยังรวมถึงรหัสคอมพิวเตอร์ ซึ่งกลุ่มอาชญากร หรือแฮคเกอร์สามารถนำไปใช้เจาะเซิร์ฟเวอร์ระบบสวิฟต์และขโมยเงินในระบบดังกล่าวได้เช่นกัน โดยยกตัวอย่างกรณีแฮคเกอร์เจาะระบบของธนาคารกลางบังคลาเทศจนสามารถขโมยเงิน 81 ล้านดอลลาร์ไปได้เมื่อปีที่แล้ว แต่โฆษกของสวิฟต์ ซึ่งเป็นองค์กรกลางที่ดูแลการถ่ายโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามประเทศก็ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานว่า เครือข่ายสวิฟต์เคยถูกเจาะโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่มีความเป็นไปได้ว่า ระบบของธนาคารลูกค้าที่ถูกเจาะน่าจะเป็นระบบท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี ได้แจ้งเตือนไปยังธนาคารลูกค้าถึงวิธีจัดการภัยคุกคามและปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยแล้ว ขณะที่นายเพียลุยจิ พากานินี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง กล่าวว่า NSA ได้แสวงประโยชน์จากจุดอ่อนของผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์วินโดว์ที่ใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยมุ่งเป้าไปที่ระบบปฏิบัติการวินโดว์เวอร์ชั่นก่อนหน้า
ทีมต่างประเทศ
CR: middleeasteye.net , AFP