ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลาประมาณ 10.25 น. พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม นำตัวนางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน กรณีลอยแพทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก และข้อหาฉ้อโกง ในการหลอกพาเด็ก 9 ขวบไปถ่ายแบบประเทศญี่ปุ่น โดยเรียกค่ามัดจำกว่า 2 แสนบาท ซึ่งเหตุการณ์หลังนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ สน. ห้วยขวาง ปี 2559 มาฝากขังเป็นผัดแรก เวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้-25 เมษายน 2560 โดยพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว และทางทนายความของโชกุน ระบุว่า ยังไม่ยื่นเรื่องขอประกันตัว เนื่องจากเอกสาร และทรัพย์สินขอยื่นประกันยังไม่พร้อม เพราะเงินบางส่วนถูกอายัดไปหมดแล้ว
จากนี้ ต้องติดตามว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ด้านสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) จะเข้ามาหารือ เพื่อตรวจสอบที่มาของเงินและจะทำการยึดทรัพย์ในส่วนที่เหลือต่อไป
ส่วนที่กองปราบปราม นายอัครกิตติ์ ซิ้มเจริญ ประธานองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ นำกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายกว่า 50 คน จากตัวแทนจำนวนผู้เสียหาย 333 คน ยอดความเสียหายกว่า 6 ล้าน 2 แสนบาท มาแจ้งความร้องทุกข์ หลักถูกนางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือโชกุน ลอยแพทัวร์ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 เมษายน โดยระบุว่า ธุรกิจแบบนี้เป็นธุรกิจอำพราง ไม่ใช่ลักษณะของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือธุรกิจท่องเที่ยว โดยพฤติกรรมมีการฉ้อโกงประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศและธุรกิจขายตรงเกิดความเสียหาย โดยพฤติการณ์มีการหลอกให้ประชาชนซื้อสินค้า พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เรื่องของการท่องเที่ยวมาจูงใจ โดยนำธุรกิจขายตรงมาบังหน้า เช่น มีการอ้างคำพูดว่า คนจ่ายเพียงคนละ 500 บาทเท่านั้นใครไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ รับจำนวนจำกัดเพียงแค่ 40 ราย ซึ่งเป็นการเป็นการโปรโมทในช่วงแรกเพื่อดึงดูดให้เหยื่อให้สนใจ มีการโชว์ภาพว่าได้ไปเที่ยวจริง เพื่อให้ลูกค้าที่จะไปเที่ยวครั้งที่ 2 หลงเชื่ออย่างสนิทใจ สำหรับ ธุรกิจของโชกุน ไม่ได้มีการจดทะเบียนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท อีกทั้งลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้า ก็ไม่ได้รับสินค้าตามความที่กล่าวอ้าง ซึ่งแผนธุรกิจนั้น ทำแค่การโน้มน้าวใจ และประชาสัมพันธ์ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขอเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คืนความสุขประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการสะสางคดีให้เร็วที่สุด และคืนเงินมาให้ผู้เสียหายโดยเร็ว เพราะการกระทำของโชกุล เป็นการทำลายความสุขของประชาชน