เกิดความตึงเครียดหลังฉากก่อนการเยือนอินโดฯของรองปธน.สหรัฐฯ

13 เมษายน 2560, 21:32น.


รอยเตอร์ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ว่า รัฐบาลสหรัฐฯมองเรื่องการเยือนอินโดนีเซียของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ของสหรัฐฯในสัปดาห์หน้านี้ ว่าจะเป็นการเสริมสร้างสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศประชาธิปไตยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสองและสามของโลก แต่ความตึงเครียดในหลายประเด็นอาจจะกระทบต่อความพยายามในการเสริมสร้างสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างการเยือนในครั้งนี้



ก่อนหน้านี้รองประธานาธิบดียูซุฟ กัลลาของอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนโยบายคนเข้าเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งผู้วิจารณ์หลายคนระบุว่าอคติต่อพลเมืองมุสลิมและกังวลเรื่องนโยบายการค้าและการลงทุนของนายทรัมป์ที่ระบุว่าสหรัฐฯต้องมาก่อน



สำหรับอินโดนีเซียเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าและจะถูกตรวจสอบจากรัฐบาลของนายทรัมป์ว่ามีเอาเปรียบสหรัฐฯในด้านการค้าและการลงทุนหรือไม่ แต่แม้ว่า จะมีความตึงเครียด เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียระบุว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียจะใช้ความสุขุมเพื่อเริ่มต้นปรับสัมพันธ์กับรัฐบาลใหม่สหรัฐฯให้อยู่ทิศทางที่ถูกต้องต่อไป โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศของนายวิโดโดให้ความสำคัญในเรื่องผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมากกว่าประเด็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง กล่าวคือ ผู้นำอินโดนีเซีย ต้องการจะส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากภาคเอกชนจีนให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน รักษาระยะห่างด้านการทูตกับรัฐบาลจีนให้เหมาะสม พร้อมทั้งกระชับสัมพันธ์ในเชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ ดังเช่นที่เกิดขึ้นในยุคที่นายบารัก โอบามา ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ



อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ 3 ที่รองประธานาธิบดีเพนซ์ของสหรัฐฯ จะแวะเยือนในช่วงการเยือนเอเชียระหว่างวันที่ 15-25 เมษายนนี้ รวมถึงเกาหลีใต้,ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย



ทีมต่างประเทศ



CR:REUTERS



 

ข่าวทั้งหมด

X