ครม.แก้ไขร่างพรบ.ระเบียงศก.ภาคตะวันออก คสช.ออกคำสั่งเพิ่มสถาบันการศึกษาตปท.-แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ทำงานได้ โดยไม่ต้องมีใบประกอบโรคศิลป์

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยปรับเปลี่ยน เป็นร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก  และอาจเป็นการรองรับในอนาคตที่อาจจะเพิ่มพื่นที่อื่น ๆ ในการพัฒนาจากเป้าหมายเดิมกำหนด 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง  ทั้งนี้ จะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติม 

โดยนายกรัฐมนตรีเร่งรัดทุกหน่วยงานดำเนินการแผนลงทุนให้คืบหน้า โดย  จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงจาก 11 กระทรวง ที่เรียกว่าซุปเปอร์บอร์ด การกำหนดอำนาจของซุปเปอร์บอร์ด เพื่อประกาศพื้นที่เป็นเขตส่งเสริมได้รับสิทธิ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามศักยภาพของพื้นที่บางแห่งที่ต้องการพัฒนาทำเลใดบ้าง ไม่ใช่การพัฒนาทั้งหมดทุกตารางนิ้วของ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประชาชนในพื้นที่จึงไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวทั้งหมด นอกจากนี้ ยังเสนอให้โอนอำนาจการออกใบอนุญาตบางส่วนให้กับสำนักงานอีอีซี เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการอนุญาตเรื่องต่าง  ๆ เช่น พ.ร.บ.ร่วมทุน , กฎหมายคอนโดมิเนียม, พ.ร.บ.คนต่างด้าว, กฎหมาย อย., ทะเบียนการค้า เพื่อรวมศูนย์กลางการอนุมัติมาอยู่ในจุดเดียวกัน 

นอกจากนี้ ยังเสนอตั้งกองทุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อดูแลผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ รวมทั้งการแก้ไขเร่งรัดการลงทุนแบบ EEC Fast Track ให้ลดเหลือ 8-10 เดือน จากเดิม PPP Fast Track มีระยะเวลาเตรียมการลงทุนมากกว่า 20 เดือน ด้วยการให้หลายหน่วยงานศึกษาแผนลงทุนไปพร้อมกันเมื่อรัฐบาลอนุมัติให้เดินหน้าแผนลงทุน  

ขณะเดียวกันสิทธิการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ของคนต่างด้าว ผู้ประกอบการ สามารถทำสัญญาเช่าได้ถึง 50 ปี และสามารถต่อสัญญาเช่าได้อีกไม่เกิน 49 ปี หากดำเนินการต่อเนื่องก็ถือว่าจะสามารถเช่าได้ยาวนาน 2 รอบถึง 99 ปี นับได้ว่าเป็นจุดที่จะดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม คสช.ออกคำสั่งเพิ่ม 2 ฉบับ พัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ประกอบด้วย การอนุญาตให้สถาบันการศึกษาต่างประเทศ มาตั้งมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาในเขตอีอีซี โดยมีหลักสูตรแผนการสอนเพื่อผลิตบุคลากรป้อนอุตสสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายของรัฐบาล รวมทั้งคำสั่ง คสช.ให้ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ เข้ามาทำงานอยู่ในเขตอีอีซีตามที่ซุปเปอร์บอร์ดอนุญาต โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ตามกฎหมายไทย เช่น หมดที่ได้รับใบประกอบโรคศิลป์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของโรค เพื่อต้องเข้ามาทำงานในเขตอีอีซี เพื่อเป็นศูนย์กลางการแพทย์ครบวงจร ไม่จำเป็นต้องสอบใบประกาศโรคศิลป์ของไทย เพราะเป็นภาษาไทยคงทำข้อสอบไม่ผ่าน เพื่อต้องการดึงผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เข้ามาพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย