ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พ.อ หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกทำเนียบรัฐบาล แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ก่อนการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ กล่าวอวยพรคณะรัฐมนตรี และข้าราชการ ในช่วงเทศกาลสงกราต์ มีความสุข รุ่งเรือง แคล้วคลาดอุบัติเหตุ พร้อมกำชับหน่วยงานดำเนินงานด้านความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกวดขันการเดินทางของประชาชน เน้นให้ตั้งกล้องตรวจเจ้าหน้าที่และประชาชน และเน้นย้ำ การใช้รถใช้ถนน ยังมีความเข้มงวดหากไม่เข้าใจกัน ขอให้ใช้วิธีตักเตือนอย่าใช้ความรุนแรง
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึง ม.112 โดยย้ำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที.)ดูแลเรื่องหมิ่นประมาท กวดขันให้มากขึ้น พร้อมขอให้ประชาชนในต่างประเทศ ช่วยทำความเข้าใจด้วย
ส่วนที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการประจำปี 2 วัน โดยกำหนดให้วันที่ 28 ก.ค. เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และวันที่ 13 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณจึงกำหนดให้ 2 วันดังกล่าวเป็นวันหยุดเพิ่มเติม และให้ยกเลิกมติครม.เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2500 เรื่องประกาศวันเวลาและวันหยุดราชการฉบับที่ 11 ที่กำหนดให้วันที่ 5 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนวันที่ 5 ธ.ค. ยังเป็นวันหยุดเช่นเดิม
ส่วนวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างวันหยุดวันที่ 10 พ.ค.(วันวิสาขบูชา) และ วันที่ 12 พ.ค.(วันพืชมงคล) ที่ประชุมมีความเห็นว่า วันที่ 11 พ.ค. ไม่เป็นวันหยุดราชการ ขอให้เอกชนและรัฐวิสาหกิจทำงานตามปกติ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 5 พ.ค. คือวันฉัตรมงคลซึ่งเป็นวันขึ้นครองราชย์จะต้องเป็นวันฉัตรมงคลของแต่ละรัชกาล ฉะนั้นวันฉัตรมงคลของแต่ละรัชกาลจะเปลี่ยนแปลงไป