ผู้เชี่ยวชาญ เผยมีการโจมตีแบบบุกเดี่ยวเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เว็บไซต์แชนแนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์ รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญหลายคนรวมถึงนายอายอบ ข่าน ไมดิน รองหัวหน้าหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของตำรวจมาเลเซีย นายบอย ราฟลี อามาร์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซียและรองศาสตราจารย์กุมาร รามากฤษณะ ประธานการศึกษาด้านโยบาย สถาบันเอส.ราชารัตนัมแห่งสิงคโปร์ ว่ามีความเสี่ยงจากการบุกเดี่ยวโจมตีเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)แนะให้สาวกของกลุ่มไอเอสใช้วิธีโจมตีในลักษณะนี้ในบ้านเกิดของพวกเขาแทนการเดินทางไปร่วมการสู้รบกับกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามตั้งข้อสังเกตว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้คือกลุ่มไอเอสเริ่มสูญเสียอาณาเขตอย่างต่อเนื่องทั้งในซีเรียและอิรัก ส่งผลให้นักรบหลายคนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องทยอยเดินทางกลับประเทศ

ขณะเดียวกัน กลุ่มหัวรุนแรงอีกหลายคนในภูมิภาคนี้ที่เคยวางแผนจะเดินทางไปยังซีเรียและอิรักเพื่อร่วมสู้รบกับกลุ่มไอเอสรู้สึกว่ายากขึ้นเรื่อยๆที่จะเดินทางไปสองประเทศดังกล่าว เป็นเหตุให้พวกเขาหันมาก่อเหตุรุนแรงในประเทศบ้านเกิดแทน ก่อนหน้านี้เกิดเหตุบุกเดี่ยวเพื่อโจมตีครั้งสำคัญๆมาหลายครั้งในยุโรปและสหรัฐฯ โดยเฉพาะเหตุโจมตีในกรุงลอนดอน อังกฤษ เมื่อไม่นานมานี้ มีคนเสียชีวิต 4 ศพหลังคนร้ายคือนายคาลิด มาซูด ซึ่งเคยถูกสอบสวนโดยหน่วยข่าวกรองอังกฤษ ก่อเหตุขับรถพุ่งชนคนบนสะพานเวสมินสเตอร์ ก่อนจะใช้อาวุธมีดแทงตำรวจคนหนึ่งเสียชีวิตขณะรักษาความปลอดภัยที่บริเวณด้านนอกที่ทำการรัฐสภา และเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว มีคนเสียชีวิต 4 ศพในกรุงสตอกโฮล์มเมื่อชายคนหนึ่งซึ่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสวีเดนทราบชื่อ ขับรถบรรทุกที่จี้ชิงมาได้พุ่งชนคนย่านถนนคนเดินช็อปปิ้งแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง

ทีมต่างประเทศ

www.channelnewsasia.com/news