การเปิดโครงการอำนวยความสะดวก และปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางแก้ว 1 ทางพิเศษกาญจนาภิเษก โดยมีพลเอกวิวรรธน์ สุชาติ ประธานกรรมการ กทพ. เป็นประธานในพิธี
นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการ กทพ. ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กทพ. ได้จัดหน่วยบริการประชาชน จำนวน 6 แห่ง ระหว่างวันที่ 11-18 เมษายน 2560 ได้แก่ ด่านฯ บางปะอิน (ขาออก) ด่านฯ บางนา และด่านฯ บางแก้ว 1 ในระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2560 เวลา 07.00-21.00 น. และที่ด่านฯ จตุโชติ ด่านฯ บางปะอิน (ขาเข้า) และด่านฯ ฉิมพลี (ขาเข้า) ระหว่างวันที่ 15-18 เมษายน 2560 เวลา 07.00-21.00 น.
นอกจากนี้ กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางของพิเศษทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2560 เวลา 00.01 น. จนถึง วันที่ 18 เมษายน 2560 เวลา 24.00 น. เนื่องจากเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ
นายดำเกิง กล่าวอีกว่า กทพ. ยังได้กำหนดจัดโครงการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจัดหน่วยบริการประชาชน ผู้ใช้ทางพิเศษ ให้บริการฟรีในการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้น เช่น เติมลมยาง น้ำ น้ำกลั่น รวมทั้งบริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น ลูกอม ยาดมสมุนไพร แผนที่การเดินทาง เอกสารประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานจัดการจราจร อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมในบริเวณที่เป็นเส้นทางเดินทาง เข้า-ออก กรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ทางพิเศษทุกสายทาง ตลอด 24 ชั่วโมง, จัดพนักงานเก็บค่าผ่านทางพิเศษเพิ่มเติม เพื่อให้บริการจัดเก็บค่าผ่านทางฯ ทุกช่องทาง โดยเฉพาะด่านฯ ขาเข้าและขาออกเมือง
จัดพนักงานสื่อสารประจำศูนย์ควบคุมทางพิเศษทุกสายทาง โดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV เฝ้าดูสภาพการจราจร รถเสีย และอุบัติเหตุบนทางพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งควบคุมสั่งการและประชาสัมพันธ์สภาพการจราจรผ่านป้ายปรับเปลี่ยนข้อความ (VMS) และวิทยุจราจร จส. 100 เพื่อให้บริการสอบถามข้อมูลและสภาพการจราจรบนทางพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง
มีการอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย จัดหน่วยเฉพาะกิจ, หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ออกตรวจตราและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่างๆ บนทางพิเศษโดยเร็วที่สุด, จัดรถกู้ภัยตรวจตราดูแลสิ่งผิดปกติบนทางพิเศษ เพื่อรักษาความปลอดภัยและมีรถยกประจำจุด ตลอดเส้นทาง 24 ชั่วโมง, จัดพนักงานจัดการจราจรร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนตั้งจุดตรวจสอบวินัยจราจร โดยมีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ตรวจจับความเร็วด้วยเครื่องอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบกวดขันรถบรรทุกน้ำหนักเกินและรถบรรทุกขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายห้ามเดินบนทางพิเศษ (63 ชนิด) รวมถึงตรวจสอบกวดขันรถกระบะที่มีคนนั่งท้ายกระบะโดยไม่มีหลังคาคลุมหรือผูกมัดสิ่งของให้มั่นคงแข็งแรง, ตรวจสอบและปรับปรุงผิวถนนให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ติดตั้งเส้นชะลอความเร็วบริเวณจุดที่อันตราย ติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทกบริเวณทางแยก และติดตั้งอุปกรณ์กันชนบริเวณทางแยก
นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยด้วยการแจกเอกสารคู่มือขับขี่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการฯ รวมถึง รณรงค์โครงการ Expressway Smart Driver “เพิ่มน้ำใจ ลดอุบัติเหตุ บนทางพิเศษ”
นายดำเกิง ระบุว่า กทพ. หวังว่าอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะลดลงและนอกจากนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กทพ. ได้มอบรถจักรยานยนต์ จำนวน 35 คัน แก่สถานีตำรวจทางด่วน 1 เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกและการจราจร แก่ผู้ใช้ทางพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้อีกด้วย
ผู้ใช้บริการทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลการใช้ทางพิเศษ เช่น ข้อมูลสภาพการจราจรบนทางพิเศษระยะทาง และอัตราค่าผ่านทาง ฯลฯ ได้ทาง www.exat.co.th ด้วยโปรแกรม SIMAP (Smart Interactive Map) และระบบรายงานสภาพการจราจรบนทางพิเศษบนโทรศัพท์มือถือ (Smart phone) ผ่าน Application “EXAT ITS”
กทพ. ขอฝากให้ผู้ใช้บริการทางพิเศษทุกท่านโปรดตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะเดินทาง และประการสำคัญที่สุดคือ “ง่วงอย่าขับ” “เมาไม่ขับ” “ขับไม่โทร” และคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งตลอดการเดินทาง หากไม่ได้รับความสะดวกหรือมีเหตุขัดข้องบนทางพิเศษ สามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่บนทางพิเศษทุกระยะ 500-1,000 เมตร แจ้งเหตุได้เช่นกัน