เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในเมืองหลวงของเวเนซุเอล่า

เกิดความรุนแรงขึ้นในระหว่างการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ในกรุงคาราคัสของเวเนซุเอล่า หลังจากตำรวจได้ปิดถนนเพื่อสกัดกั้นผู้เดินขบวนประท้วงจำนวนมากที่เดินทางฝั่งตะวันออกของกรุงคาราคัสมุ่งหน้าสู่ย่านใจกลางเมือง จนทำให้ผู้ประท้วงพากันขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ และทำให้ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วง การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันอังคาร เนื่องจากผู้ประท้วงไม่เห็นด้วยกับการที่ศาลสูงสุดของเวเนซุเอล่ามีคำตัดสินที่เป็นลดอำนาจบางประการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการประท้วงได้ขยายวงกว้างขึ้น เมื่อนายเฮนริเก้ คาปริเลส ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน และเป็นหนึ่งในแกนนำการประท้วงได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 15 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายคาปริเลสกล่าวถึงเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดในระหว่างการชุมนุมประท้วงรัฐบาลว่า รัฐบาลเวเนซุเอล่ามีความเป็นเผด็จการในการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ประท้วง รวมทั้งระบุว่าการขัดขวางการชุมนุมดังกล่าวเป็นการก่ออาชญากรรมและละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน ตลอดจนอาจนำไปสู่การก่อรัฐประหารขึ้นได้ นอกจากนั้นแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยิงออกมานั้นยังไปถูกกระจกสำนักงานของคาปริเลสจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยด้วย กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่าตลอดระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมามีผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้ว 115 คน แต่ทางการยืนกรานว่ามีเพียง 30 คนเท่านั้น

**12.28F174**