สหรัฐฯขู่โจมตีซีเรียอีก พร้อมใช้แนวทางการทูตกดดันผ่านการเจรจาสันติภาพ

08 เมษายน 2560, 09:06น.


นางนิคกิ เฮลี่ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวในระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ภายหลังสหรัฐฯ เปิดฉากยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กจากเรือรบกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนโจมตีฐานทัพซีเรีย เพื่อลงโทษกรณีซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพื้นที่ในเมืองคานเชคุน ซึ่งอยู่ในการยึดครองของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และทำให้มีผู้เสียชีวิต 88 คน เป็นเด็กเล็ก 27 คนเมื่อต้นสัปดาห์ ว่า สหรัฐฯ พร้อมจะโจมตีซีเรียอีกครั้ง แต่หวังว่าคงไม่จำเป็น และเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะใช้แนวทางการทูตกดดันซีเรียให้แก้ปัญหาความขัดแย้งผ่านการเจรจาสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาการเมือง



ซึ่งนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ก็เห็นด้วย แต่ก็ขอให้ใช้ความอดกลั้น 

อย่างไรก็ตาม แม้การเปิดฉากยิงขีปนาวุธของสหรัฐฯ ในการโจมตีฐานทัพซีเรียจะได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิสราเอล ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี แต่รัสเซียก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในการโจมตีฐานทัพอากาศ “เชรัต” ใกล้เมืองฮอมส์ ของซีเรีย โดยนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเกือบปะทะกับทหารรัสเซีย



ขณะที่นายวลาดิมีร์ ซาฟรอนคอฟ รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติกล่าวในที่ประชุมว่า เป็นการโจมตีอธิปไตยของซีเรีย ทั้งยังประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งเป็นการตัดสินใจนโบายต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งแรก นับแต่ดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์



นอกจากนี้ทำเนียบเครมลินยังเตือนว่า อาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียเสียหายอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดจะพบปะเจรจากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในสัปดาห์หน้า แสดงความรู้สึกผิดหวังกับท่าทีของรัสเซีย เพราะบ่งชี้ให้เห็นว่า รัสเซียให้การสนับสนุนการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอะซัด ของซีเรีย อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ผู้นำซีเรียปฏิบัติการโจมตีประชาชนของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม



ทีมต่างประเทศ



CR:AFP

ข่าวทั้งหมด

X