สรุปข่าว 19.35 น.
++++นายเอียน วิลเลียมส์ นักยุทธศาสตร์จากบริษัทพีล ฮันท์ในกรุงลอนดอน อังกฤษว่าราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเกือบเท่ากับตัวเลขการปรับขึ้น 1 เดือนในวันนี้หลังสหรัฐฯโจมตีฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของซีเรีย แต่ดัชนีตลาดหุ้นในยุโรปและเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังร่วงลงในช่วงแรกๆของการซื้อขายวันนี้ หลังเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า ความเสียหายอยู่ในวงจำกัดและการโจมตีซีเรียด้วยจรวดโทมาฮอร์คจะมีขึ้นเพียงครั้งเดียว ช่วยผ่อนคลายความหวั่นวิตกของนักลงทุนลงได้บ้าง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเริ่มลดจากเดิมเล็กน้อยหลังนักลงทุนประเมินว่า การโจมตีซีเรียครั้งนี้คงจะไม่กระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลก สำหรับสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ตลาดเบรนท์ในกรุงลอนดอน ขยับขึ้นกว่าร้อยละ 2 หลังสหรัฐฯยิงจรวดถล่มซีเรีย แต่ต่อมาตัวเลขล่าสุดราคาน้ำมันขยับขึ้นเพียงร้อยละ 1.5 อยู่ที่ 55.72 ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่เวสต์เท็กซัส สหรัฐฯปรับขึ้นร้อยละ 1.6 ราคาทองคำปรับขึ้นร้อยละ 1 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองไปที่เรื่องตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะประกาศในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเข้มแข็งหรือไม่ ส่วนในยุโรป รัฐมนตรีคลังจากกลุ่มยูโรโซนจะประชุมกันในวันนี้ เพื่อประเมินแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลกรีซว่ามีความคืบหน้ามากพอที่จะอนุมัติเงินกู้งวดต่อไปหรือไม่
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ สศค. ติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด กรณีที่สหรัฐเริ่มเปิดฉากโจมตีประเทศซีเรีย ได้ให้สำนักเศรษฐกิจมหภาคของ สศค. ประเมินสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้สำนักนโยบายภาษี ประเมินด้วยว่ามีจุดใดได้รับผลกระทบบ้างโดยเฉพาะราคาน้ำมัน แต่เบื้องต้นคาดว่าหากสถานการณ์ตอบโต้อยู่ในวงจำกัด ไม่ขยายวงกว้างไปประเทศอื่น ก็จะไม่มีผลกระทบเศรษฐกิจของไทย
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาด วันนี้ เคลื่อนไหวผันผวนตลอดเวลาส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ มูลค่าซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากนักลงทุนเตรียมตัวเดินทางไปพักผ่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว ประกอบกับเกิดเหตุการณ์สหรัฐโจมตีประเทศซีเรีย จนนักลงทุนตื่นตระหนก ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,583.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด มูลค่าซื้อขาย38,162.36 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงเมื่อวานนี้ปิดบวก 67.57 จุด ที่ 18,664.63 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากที่สหรัฐใช้ขีปนาวุธโทมาฮอว์คโจมตีซีเรียในวันนี้ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 6.42 ที่ 24,267.30 จุด
+++นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงได้รับความเสียหาย เกิดเหตุไฟฟ้าดับในพื้นที่จังหวัดปัตตานีบางส่วน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 นั้น ขณะนี้ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ทั้งนี้ กฟผ. ได้มีการประสานความร่วมมือกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กองทัพบก และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ตามมาตรการฉุกเฉิน ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด หากพบเหตุผิดปกติ หรือน่าสงสัย โปรดแจ้ง Call Center กฟผ. โทร. 1416 ตลอด 24 ชั่วโมง
+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งให้ทุกสำนักงานเขตเก็บถังขยะสีทึบในจุดเสี่ยงทั่ว กทม. ออกให้หมด พร้อมนำโครงเหล็กใส่ถุงพลาสติกใสทำเป็นถังขยะชั่วคราวมาวางแทน หลังเกิดเหตุระเบิดริมรั้วสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า ถ.ราชดำเนินกลาง เมื่อวันที่ 5 เม.ย
+++เทศกาลสงกรานต์ 2560 คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้จัดรดน้ำขอพร นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. โดย นายมีชัยเปิดเผยถึง การใช้มาตรา 44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เคยมีอยู่เดิมตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ว่า ยังคงสามารถใช้ได้ เพราะไม่ได้มีอะไรผิดแปลกไปจากเดิม เมื่อถามว่าหากใช้มาตรา 44 เดิมจะถือว่าเป็นการยกเว้นการใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่พ.ศ.2560 บางมาตราหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า หากจะใช้อำนาจคงระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้ไปขัดกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ แต่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไร เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้หัวหน้าคสช.ใช้มาตรา 44 ในบางกรณีที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วจะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญก็เขียนว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ถ้าอะไรที่มันไปไกลเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญจะไปได้ ก็ต้องกลับมาดู แต่เข้าใจว่าคงไม่มี เพราะที่ผ่านมาก็ระมัดระวังกันอยู่แล้ว
+++นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ว่า กกต.ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านตั้งแต่ทราบว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมทั้งกฎหมาย 4 ฉบับ จะเสร็จเมื่อใดซึ่งเราไม่สามารถกำหนดหรือบีบรัดหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่ในการออกกฎหมายได้ โดยทางกกต.มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อกฎหมายออกมาเมื่อใด กกต.พร้อมจะดำเนินการส่วนความคืบหน้าการแต่งตั้ง นายอำพล วงศ์ศิริ ว่าที่เลขาธิการกกต. นั้น ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง (ป.ป.ช.) ว่าผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถมีเลขาธิการ กกต. มาดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้
+++ความคืบหน้าการสอบสวนปัญหารพ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และรพ.ชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะผู้รับผิดชอบกรณีวินัยของข้าราชการ กล่าวว่า ในส่วนของรพ.สตึกได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน และมีการแจ้งความไปตั้งแต่สมัยปี 2557 เนื่องจากพบว่า พยาบาลปลอมลายเซ็นต์ และสตง.ก็ลงไปตรวจสอบและเจอเรื่องนี้ แต่จะมีประเด็นอื่นๆ หรือผู้เกี่ยวข้องอื่นๆหรือไม่ ขณะนี้ต้องรอการสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าเมษายนนี้น่าจะทราบ ส่วนของรพ.ชัยภูมิ เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2557-2558 ได้ติดตาม เอกสารต้นขั้วการเงินที่โรงพยาบาลมีการตรวจสอบนั้นเป็นเงินจำนวน 312 ล้านบาท โดยติดตามต้นขั้วจากใบเสร็จเงินได้แล้วประมาณ 80-90 % และน่าจะเหลืออีกประมาณ 10% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 29 ล้านบาทที่ยังหาต้นขั้วเอกสารไม่ได้ แต่ขณะนี้ก็กำลังทวนกลับไปยังบริษัทต่างๆอยู่ และกรณีนี้เงินไม่ได้หาย แต่ที่หายคือเอกสาร อย่างไรก็ตาม สตง.ก็ได้มาตรวจสอบพบว่า การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่พบประเด็นทุจริตแต่อย่างใด โดยน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย.นี้ฃ
+++หลังพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ควบคุมตัว นายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 34 ปี ชาว จ.เลย ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวชาวพม่ามายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 ระหว่างวันที่ 7 -18 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 6 ปาก รอผลสอบประวัติพิมพ์มือต้องโทษของผู้ต้องหา และอื่นๆ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหา หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ฯและ ชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายเท่านั้น แต่ให้การปฏิเสธข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ และชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและยานพาหนะ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ไม่มีญาติมายื่นคำร้อง และหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนายคมสรรณ์ ไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป
+++ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ บางนา พนักงานอัยการคดีศาลจังหวัดพระโขนง ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประสงค์ เรืองศิริกูลชัย อายุ 49 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าวิช สีดำ ทะเบียน ษม.4964 กทม. ซึ่งมีพฤติกรรมขับรถปาดไปมา อีกทั้งยังหยุดกลางถนน ทำให้ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ที่ขับขี่ตามมา ไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.อุดมสุข ดำเนินคดี นายประสงค์กล่าวก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า ขอยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตนพูดไปว่าการกระทำดังกล่าวเพื่อเป็นการสอนคนที่ขับรถช้าเท่านั้น ไม่ได้พูดว่าเป็นการสั่งสอน ศาลพิพากษา ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 15 วัน คำให้ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ เปลี่ยนโทษจำคุกให้เป็นการกักขังแทนเป็นเวลา 15 วัน ปรับเงิน 5,000 บาทและพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เป็นเวลา 6 เดือน รวมทั้งยึดรถยนต์ของกลางไว้ โดยให้จำเลยใช้สิทธิยื่นเรื่องอุทธรณ์ขอรถยนต์คืนภายใน 1 เดือน สำหรับนายประสงค์ถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ตามพ.ร.บ.จราจร มาตรา 43(8)