วธ.จัดนิทรรศการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ/ตลาดหุ้นสหรัฐฯจับตาการหารือผู้นำสหรัฐฯ-จีน/ตามจับผตห.ไม่พอใจเรื่องเบิ้ลเครื่องจยย.

+++นางยุพา วัฒนะกิจบวร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเม.ย. กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  วธ.จึงได้จัดนิทรรศการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ ขึ้นที่โรงละครแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้กับพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพได้เข้าชมอย่างสะดวก

+++ผู้ช่วยปลัดวธ. เปิดเผยว่า นิทรรศการดังกล่าว ได้นำเสนองานศิลปะที่เกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งหาชมได้ยาก บางชิ้นไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน ผ่านเทคนิคการนำเสนอระบบวิดีโอ แมพปิ้ง บอกเล่าเรื่องราวความสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับงานศิลปะในแต่ละชิ้น เพื่อจูงใจให้เด็ก เยาวชน และประชาชน เข้ามาชมด้วยความน่าสนใจ เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังพระพุทธรัตนสถาน ภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งทุกภาพผ่านการพระราชวินิจฉัยจากพระองค์ท่าน ซึ่งจะนำมาแสดงทั้งหมด 10 ภาพ โดยหมุนเวียนสลับกันครั้งละ 2-3 ภาพ ประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 เม.ย.

+++ยอดลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 สัปดาห์แรก หรือตั้งแต่วันที่ 3-7 เมษายน 2560 นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าน่าจะมีผู้มาลงทะเบียนถึง 2 ล้านราย ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เมษายน มียอดลงทะเบียนสะสมกว่า 1.5 ล้านราย เมื่อวานนี้ เป็นวันหยุดราชการ เปิดให้ลงทะเบียนเฉพาะสาขาของธนาคารออมสิน กรุงไทย ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ยอดคนลงทะเบียนอาจไม่มากเท่า 3 วันก่อน คาดว่าเปิดทำการวันนี้ การลงทะเบียนกลับมาคึกคักเหมือนเดิม คาดว่า กว่าจะปิดรับลงทะเบียนวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 และมียอดลงทะเบียนรวมประมาณ 10-14 ล้านราย

+++การลงทะเบียนครั้งนี้จะแจกบัตรสวัสดิการให้ผู้ลงทะเบียน เพื่อใช้ลดภาระค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโดยสาร เป็นต้น  นอกจากสวัสดิการพื้นฐานแล้ว ยังมีหลายเรื่องที่มองไว้ โดยขอดูข้อมูลการลงทะเบียนก่อนว่ามีผู้มาลงทะเบียนเท่าใด กลุ่มที่มาลงทะเบียนเดือดร้อนและต้องการให้รัฐช่วยเหลือในเรื่องใดมากที่สุด จะมีการสรุปเรื่องสวัสดิการเพิ่มเติมหลังจากปิดรับลงทะเบียนวันที่ 15 พฤษภาคม เพราะต้องรอข้อมูลจากการลงทะเบียนมาประมวลผล

+++ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ระบุว่า เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนส่วนใหญ่มีทิศทางอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยทั้งภูมิภาคจะขยายตัวในอัตราเร็วมากขึ้นที่ร้อยละ 4.8 ในปีนี้ และร้อยละ 5.0 ในปีหน้า เอดีบี ประเมินว่าไทยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.5  ในปี 2560 และปีหน้าร้อยละ 3.6  ขณะที่ชาติในภูมิภาคอาเซียนที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโดดเด่นที่สุดจากการประเมินของเอดีบีในช่วง 2 ปีนี้คือ เมียนมา ที่จะโตร้อยละ 7 ในปีนี้ และร้อยละ 7.5 ปี 2561 ตามด้วยเวียดนามที่จะโต ร้อยละ 6.5 ในปีนี้ และร้อยละ 6.7 ปีหน้า

+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันโลก  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 51.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ ปิดที่ 54.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดบวกเล็กน้อย จากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 14.80 จุด  ปิดที่ 20,662.95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.54 จุด ปิดที่ 2,357.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 14.47 จุด ปิดที่ 5,878.95 จุด  นักวิเคราะห์ จับตาข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้  ท่ามกลางความคาดหมายว่าเศรษฐกิจของประเทศ มีการจ้างงานเพิ่มเติมราว 2 แสน 15,000 อัตราในเดือนมีนาคม และตัวเลขคนว่างงานน่าจะทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.7 นอกจากนี้แล้วตลาดยังจับตาการพบปะกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯกับประธานาธิบดีสิ จิ้นผิงของจีน ด้วย

+++ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,253.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++หลังจากเมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า  ชาวบ้านหมู่ 13 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร กว่า 200 หลังคาเรือน รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่พื้นดินและตัวบ้านประมาณ 15 วินาที         หลังเกิดเหตุ นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าฯ ชุมพร สั่งการให้นายอำเภอหลังสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากน้ำหลังสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ และให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ขณะที่ นายธีรวัฒน์ ธีรรัฐพล ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้สอบถามไปยังสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวแล้วได้รับคำตอบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นใน อ.หลังสวน จ.ชุมพร  ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุจากอะไรคงต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป

+++เรื่องการผ่อนผันนั่งกระบะท้าย และแค็บ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลอยากสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน กรณีการบังคับใช้กฎหมายและการผ่อนปรนเป็นบางกรณี สำหรับการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ เมื่อประชาชนยังไม่พร้อม รัฐบาลจะเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจ และให้เวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่ง  เจ้าหน้าที่จะยังคงบังคับใช้กฎหมายด้วยการจับปรับ ในกรณีของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่จะอนุโลม ตักเตือน ผู้ที่นั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้อง รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง สำหรับรถกระบะ อนุโลมให้นั่งในแค็บ และในท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ห้ามนั่งบนขอบกระบะหรือฝาปิดท้ายรถ  นายกฯ สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างตรง ไปตรงมา ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากประชาชน หากผู้ใดพบเห็น ขอให้ถ่ายคลิปและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที

+++ร.ต.อ.เชิดชัย ศรีประเสริฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 32/84 ซอยสุขสวัสดิ์ 2 แขวงและเขตจอมทอง กรุงเทพฯ ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผบก.น.9 พ.ต.อ.ภูวนาถ ฤทธาเวช ผกก.สน.บางมด พ.ต.ท.ภวิชช์ ปานธนนันท์ สว.สส. กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บริเวณเพิงเลี้ยงไก่ข้างบ้าน พบศพนายธนพัฒน์ หรือโล้น ทนาสอน อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ศีรษะและต้นขาขวา ส่วนบริเวณหน้าบ้านมีหัวกระสุนปืนตกอยู่ภายในกรงไก่ 1 นัด และมีร่องรอยการตั้งเตากินหมูกระทะของผู้เสียชีวิตและกลุ่มเพื่อน

+++ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธนพัฒน์ กินหมูกระทะกับเพื่อน ๆ ต่อมา เจ้าตัวขับรถจยย. ยามาฮ่า นูโว สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกไปซื้อของกลางซอยปลั่ง ซึ่งไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุมากนัก ระหว่างทางขี่ผ่านบ้านของนายพรชัย หรือตี๋เล็ก ประจักษ์ศศิธร อายุ 32 ปี ช่วงนั้นเครื่องยนต์ของรถจยย. ที่นายธนพัฒน์ ขี่มา เกิดขัดข้องเหมือนจะดับนายธนพัฒน์ จึงเร่งเครื่อง เพื่อให้รถวิ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อกลับมาถึงเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะนายพรชัย ซ้อนท้ายรถ จยย.ฮอนด้า สกูปปี้ไอ ไม่ทราบทะเบียน มี นายคเชนท์ คุณากรกุล เป็นคนขี่ ตามมาจอดที่หน้าประตูบ้านนายธนพัฒน์ แล้ว นายพรชัย ถือปืนตรงมาหาผู้เสียชีวิต  ก่อนสอบถามว่า ขี่รถจยย.ผ่านหน้าบ้าน แล้วเบิ้ลเครื่องใส่ทำไม โดยผู้เสียชีวิตพยายามอธิบายให้ฟัง แต่อีกฝ่ายไม่เข้าใจ จนเกิดการโต้เถียงท้าทายกัน สุดท้ายนายพรชัย จึงใช้ปืนยิงใส่ผู้เสียชีวิตในที่สุด ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับ นายพรชัย และนาย คเชนทร์ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุน

+++ตำรวจตามแกะรอยติดตามจับกุม นายคเชนทร์ ไว้ได้ ขณะหลบหนีไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก สอบสวนนายคเชนทร์ ให้การอ้างว่า นายพรชัย เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก ๆ โทรศัพท์มาหาบอกให้ขับรถจักรยานยนต์พาไปทำธุระที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยไม่รู้ว่านายพรชัย จะไปก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต โดยช่วงเกิดเหตุพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้วแต่ไม่สำเร็จ จากนั้นนายพรชัยสั่งให้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งย่านวงเวียนใหญ่ สุดท้ายมาถูกจับ

+++สำหรับนายพรชัย หรือตี๋เล็ก  จัดเป็นขาใหญ่ เป็นลูกชายเจ้าของโรงงานแปรรูปไม้ย่านบางมด เชื่อว่า น่าจะหลบหนีไปอยู่กับญาติหรือคนรู้จักไม่ไกลจากพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างเกลี้ยกล่อมให้คนในครอบครัวพาเข้ามอบตัว ส่วนนายคเชนทร์ พบว่าไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และเคยถูกตำรวจ สน.บางมด จับข้อหาพยายามฆ่า เมื่อปี 2550 เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาได้ไม่นาน

CR:FB กระทรวงวัฒนธรรม