นางอองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมา แสดงความเห็นว่า ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลเมียนมากวาดล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป แม้ว่าเธอจะยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงใช้ความรุนแรงในการปราบปรามคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวโรงฮิงญา แต่ความรุนแรงนั้นไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะยังมีความรุนแรงที่เกิดจากชาวมุสลิมด้วยกันเองอีกด้วย นางซูจีกล่าวว่า ภายในกลุ่มชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามมีการแบ่งแยกกลุ่มออกเป็นหลายฝ่ายที่มีความขัดแย้งกันเอง และรัฐบาลพยายามที่จะสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มเหล่านี้
ที่ผ่านมานางซูจีมักหลีกเลี่ยงการแสดงความเห็นเกี่ยวกับชาวโรฮิงญา ซึ่งทำให้เธอถูกวิจารณ์ในฐานะที่เป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเธอชี้แจงว่าเป็นเพราะเมื่อหลายปีก่อนเคยตอบคำถามในประเด็นโรฮิงญาแล้วถูกผู้สื่อข่าวกดดันให้เธอกล่าวโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และการที่เธอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ก็เพราะคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ของสหประชาชาติมีความเห็นพ้องให้สอบสวนประเด็นพฤติกรรมของทหารในการกวาดล้างชนกลุ่มน้อย ซึ่งเธอยืนยันว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การกวาดล้างแต่คือความแตกแยกที่แบ่งออกเป็นฝักฝ่าย และทางการเมียนมาก็มีคณะทำงานที่ตรวจสอบเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
...
F163