ความคืบหน้าเหตุระเบิดรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองเซนต์สปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซียเมื่อวันจันทร์มีคนเสียชีวิต 14 ศพ บาดเจ็บ 49 คน ในจำนวนนี้สาหัส 4 คน เหตุเกิดระหว่างสถานีเซนนายา พลอชชาด กับสถานีสถาบันเทคโนโลยีเชสกี สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย รายงานอ้างแหล่งข่าวในคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียว่า นายอัคบาร์ซฮอน จาลิลอฟ พลเมืองคีร์กีซเชื้อสายอุซเบควัย 22 ปี ผู้ต้องสงสัยมือระเบิดพลีชีพที่ก่อเหตุโจมตีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองเซนต์สปีเตอร์สเบิร์กไม่เคยมีประวัติการทำความผิดคดีอาญามาก่อน จึงไม่อยู่ในข่ายการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของรัสเซียและชื่อของเขาไม่เคยปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยข่าวกรองรัสเซียมาก่อน
นอกจากนี้ ตำรวจพบหลักฐานดีเอ็นเอคือชิ้นส่วนศพของผู้ต้องสงสัยรายนี้บนรถไฟที่เกิดเหตุ มีดีเอ็นเอตรงกับระเบิดลูกหนึ่งที่สถานีต่อไปคือสถานีพลอชชาด วอสตานียา แต่ระเบิดยังไม่ทำงาน หน่วยเก็บกู้ระเบิดสามารถเก็บกู้และนำไปทำลายได้เสียก่อน
สำหรับนายจาลิลอฟ พร้อมครอบครัวได้อพยพจากประเทศคีร์กีซสถานในเอเชียกลางเข้าไปอาศัยอยู่ในรัสเซียเมื่ออายุ 16 ปี แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่านายจาลิลอฟไม่เคยมีประวัติว่าเคยก่อเหตุรุนแรงใดๆ เมื่อได้รับสัญชาติรัสเซียแล้วเขาก็สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมรัสเซียได้ตามปกติ ระบุว่ารัฐบาลรัสเซียได้อนุมัติคำขอสัญชาติของเขาตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่นายจาลิลอฟ ติดต่ออยู่เป็นประจำ รวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อสอบสวนว่าเขาอาจจะถูกชักจูงไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยกลุ่มหัวรุนแรงหรือองค์กรก่อการร้ายบางกลุ่มหรือไม่
ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเขาอาจจะมีความเชื่อมโยงกับสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรีย สำหรับเหตุโจมตีครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับพลเมืองรัสเซียอย่างมากและจะเป็นปัญหาใหญ่ด้านความมั่นคงที่รัฐบาลรัสเซียจะต้องเร่งหาทางป้องกันก่อนที่รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลในศึกฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2017 รอบสุดท้าย ในเดือนมิถุนายนนี้และการแข่งขันฟุตบอลโลกในในปีหน้า
ทีมต่างประเทศ