ประณามรัฐบาลซีเรีย ใช้อาวุธเคมีโจมฝ่ายตรงข้าม/ไอเอสเย้ย ทรัมป์ กำลังพาสหรัฐล่มสลาย/ปลดรมต.ฟิลิปปินส์ ร่ำรวยผิดปกติ

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++คณะกรรมการประสานงานระดับท้องถิ่นและกลุ่มเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนซีเรียว่ามีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 58 ศพ รวมถึงเด็ก 9 ศพและมีผู้บาดเจ็บกว่า 60 คนในวันนี้จากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองข่านเชคูน จังหวัดอิดลิบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งอยู่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏ ระบุว่าการโจมตีของเครื่องบินรบจากกองทัพซีเรียและรัสเซียทำให้ชาวบ้านหลายคนในท้องที่นั้นเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกและมีฟองน้ำลายไหลออกจากปากก่อนเสียชีวิต  ที่ผ่านมารัฐบาลซีเรียปฏิเสธว่าไม่เคยใช้อาวุธเคมีในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้าน แต่ผลสอบสวนของคณะเชี่ยวชาญจากองค์กรห้ามใช้อาวุธเคมีของสหประชาชาติระบุเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อนว่ากองกำลังรัฐบาลซีเรียใช้สารคลอรีนที่มีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองตา แสบร้อนตามผิวหนังเป็นอาวุธในการโจมตีอย่างน้อย 3 ครั้งระหว่างปี 2557-2558 และพบว่ากลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ใช้แก๊สซัลเฟอร์มัสตาร์ด ซึ่งทำให้ผิวหนังพุพองเป็นอาวุธในการโจมตีเช่นกัน

+++เหตุระเบิด2 ลูก ที่สถานีรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซียเมื่อเวลา 14.30 น.วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น บีบีซีรายงานอ้าง นางเวโรนิกา สกอร์ตโซวา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขรัสเซียและหน่วยข่าวกรองของประเทศคีร์กีซสถาน ประเทศในเครืออดีตสหภาพโซเวียตในเอเชียกลางว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 11 ศพเป็น 14 ศพ หลังมีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 ศพเมื่อเช้าวันนี้ มีผู้บาดเจ็บ 49 คน รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กประกาศไว้ทุกข์ 3 วัน คนรายคือนายอัคบาร์ซฮอน จาลิลอฟ พลเมืองชาวคีร์กีซเชื้อสายอุซเบค ซึ่งได้สัญชาติรัสเซีย เขาเกิดในเมืองออช ประเทศคีร์กีซสถานเมื่อปี 2538 แต่ยังคงมีรายงานที่ขัดแย้งกันว่า คนรายรายนี้เป็นมือระเบิดพลีชีพหรือไม่ ด้านนายเซอร์เล ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวในการประชุมกับนายเออร์ลัน อับดีลดาเยฟ รัฐมตรีต่างประเทศคีร์กีซสถานว่า การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่าทุกประเทศจะต้องร่วมมือกันปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้หมดไป

+++กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในวันอังคาร(4เม.ย.) ออกมาพาดพิงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเป็นครั้งแรก ระบุอเมริกากำลังล่มสลาย และบริหารโดย"คนบ้องตื้น"    อาบี อัล-ฮัสซาน อัล-มูฮาเจอร์ โฆษกของไอเอส โฆษกของไอเอส กล่าวในเทปบันทึกเสียงที่เผยแพร่ผ่านเทเลแกรมของทางกลุ่ม ต่อว่า "หลักฐานที่ชัดเจนก็คือคุณกำลังบริหารโดยคนบ้องตื้น คนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งว่าอะไรคือ ซีเรียหรืออิรักหรืออิสลาม"เสียงเย้ยหยันจากไอเอส มีขึ้นในขณะที่ จาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยของประธานาธิบดีทรัมป์ เดินทางไปยังฐานทัพแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโมซุล พร้อมกับนายพลระดับสูงของอเมริกาในวันอังคาร(4เม.ย.) และแสดงความหวังว่าท้ายที่สุดแล้วการยึดเมืองแห่งนี้คืนจากไอเอสจะเป็นชัยชนะของโลก  การเดินทางครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ กำลังพิจารณาแนวทางต่างๆสำหรับเร่งเครื่องปฏฺิบัติการของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่อเมริกาและอิรักยอมรับว่ายังอยู่ห่างไกลจากความสำเร็จในการขุดรากถอนโคนพวกรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ 51.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(4เม.ย.) ปิดทรงตัว นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.03 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,689.24 จุด นักลงทุนยังจับตาไปที่การพบปะกันระหว่างทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ราคาทองคำในวันอังคาร(4เม.ย.) ปิดบวก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++บีบีซีรายงานอ้างคณะกรรมการของรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่รับผิดชอบเรื่องการจัดทำรายละเอียดแผนการถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ของสหราชอาณาจักรหรือเบร็กซิตว่า สส.หลายคนเตือนเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าหากรัฐบาลสหราชอาณาจักรและกลุ่มอียูไม่สามารถสรุปข้อตกลงได้เสร็จภายในกำหนด 2 ปีนี้นอกจากนี้ คณะกรรมการฯอ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ที่ว่าไม่มีการทำข้อตกลงกันเลยก็ยังดีกว่าทำข้อตกลงแบบมีข้อบกพร่องผิดพลาดและขาดเนื้อหาสาระสำคัญๆ ในการจัดทำแผนคณะกรรมการจะยึดวัตถุประสงค์หลัก 12 ข้อตามที่กำหนดในสมุดปกขาวที่รัฐบาลแถลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นหลักรวมถึงนโยบายเรื่องคนเข้าเมือง

++++ตำรวจในเมืองมาร์เบลลาทางภาคใต้ของสเปนได้ตรวจค้นและยึดทรัพย์สินของนายริฟาอาต อัลอัสซาด ลุงวัย 79 ปีของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย ตามหมายศาลเพื่อสอบสวนในข้อหาฟอกเงิน การตรวจค้นมีขึ้นในย่านเปอร์โต บานัส มารินา แหล่งรีสอร์ทหรูของเมือง เป็นการขยายผลจากการสอบสวนคดีทุจริตที่ลุงของผู้นำซีเรียถูกดำเนินคดีในฝรั่งเศส ทรัพย์สินทั้งหมดที่นายริฟาอาตและครอบครัวมีอยู่ในสเปนคิดเป็นมูลค่า 691 ล้านยูโรก่อนหน้านี้นายริฟาอาตลี้ภัยในต่างแดนหลังความพยายามเพื่อจะโค่นล้มรัฐบาลของพี่ชายของเขาหรืออดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัลอัสซาด ซึ่งบัดนี้ถึงแก่อสัญกรรมหลายปีแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ด้านแหล่งข่าวในกระบวนการยุติธรรมของสเปนระบุว่านายริฟาอาตใช้เงินของรัฐราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯซื้ออสังหาริมทรัพย์ในฝรั่งเศส, ลิกเตนสไตน์,ลักเซมเบิร์กและบนเกาะกือราเซา อาณาเขตของเนเธอร์แลนด์ในคาบสมุทรแคริบเบียนทางการฝรั่งเศและสเปนอยู่ระหว่างประสานความร่วมมือในการสอบสวนคดีนี้ โดยสเปนได้เริ่มทำการสอบสวนคดีขยายผลต่อจากฝรั่งเศส ทางการสเปนระบุว่านายริฟาอาตและครอบครัวมีอสังหาริมทรัพย์ 503 หลัง รวมถึงบ้านสำหรับพักผ่อนในวันหยุดไปจนถึงอพาร์ทเมนท์หรูทั้งในและรอบๆเมืองมาร์เบลลา

++++ทำเนียบมาลากันยังออกแถลงการณ์ในวันอังคาร ว่านายอิสมาเอล ซัวโน พ้นจากตำแหน่งรมว.กระทรวงกิจการภายในแล้ว เป็นไปตามคำสั่งไล่ออกของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ซึ่งหมดความไว้วางใจและความเชื่อมั่นอย่างสิ้นเชิงในตัวของซัวโน ที่แม้ถือเป็นบุคคลซึ่งเป็นกลไกลสำคัญในแคมเปญหาเสียงช่วยให้ประธานาธิบดีได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถเป็นสมาชิกในคณะรัฐมนตรีที่น่าไว้วางใจได้ เนื่องจากมีประเด็นการคอร์รัปชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ต้องการให้การไล่ซัวโนออกจากตำแหน่ง "เป็นตัวอย่าง" ให้แก่รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยการพ้นจากตำแหน่งของซัวโนเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวของ "ความร่ำรวยผิดปกติ" และเจ้าตัวไม่อาจชี้แจงที่มาของทรัพย์สินเหล่านั้นได้ รวมถึงการที่ฟาร์มแห่งหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และครอบครัวของซัวโนเป็นเจ้าของ ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น "อย่างฉับพลัน" ซัวโน วัย 70 ปี ถือเป็นรัฐมนตรีคนที่ 2 ในคณะรัฐมนตรีของดูเตร์เต ซึ่งต้องออกจากตำแหน่ง ต่อจากนายเพอร์เฟกโต ยาไซ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งรมว.กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค. ฐานไม่สามารถชี้แจงการมีสถานภาพพลเมืองสหรัฐก่อนรับตำแหน่งได้